ถ้าคุณเป็นสายแฟนตาซีดาร์กๆ แอคชั่นลุ้นระทึก หรือชอบเรื่องผีลี้ลับที่ขนลุกซู่ทั้งตัว วันนี้ผมคัดมาสามเรื่องเด็ดๆ ที่รับรองว่าอ่านแล้วติดงอมแงม หยุดไม่ได้เลย มาดูกันเลยว่าทั้งสามเรื่องนี้คืออะไร และทำไมผมถึงต้องหยิบมาพูดถึงแบบนี้
เริ่มจากเรื่องแรกที่ผมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นราชาแห่งกองทัพซอมบี้ไปเลย นั่นคือ “นิยาย เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีโซล เล่ม 1 Necromancer of Seoul Station”
พระเอกอย่างคังอจิน ถูกดูดไปดาวอื่น 20 ปี กลายเป็นเนโครแมนเซอร์สุดโหด สร้างกองทัพอมตะบุกทะลวงทุกอย่าง พอกลับโลกมา เวลาเพิ่งผ่านไปแค่ 5 ปี แต่ดันเจี้ยนมอนสเตอร์บุกกรุงโซลเต็มไปหมด เขาต้องใช้พลังมืดชุบชีวิตศัตรูให้กลายเป็นทาส ต่อสู้แบบบู๊แหลกในสถานีรถไฟใต้ดินที่กลายเป็นสมรภูมิ ถ้าคุณชอบนิยายเกาหลีแนว hunter ดันเจี้ยน เก็บเลเวล พระเอกเทพแบบนี้ เรื่องนี้คือต้องโดน อ่านเพลินมาก ผมอ่านเล่ม 1 จบในคืนเดียวเลย 555
ต่อด้วยเรื่องที่สอง ที่ผมเรียกว่า “นิยายล่ามนุษย์ปิศาจสุดโหด” นั่นคือ “นิยาย ฉันจะตามล่า ไม่ให้แกฆ่าใครได้อีก”
นี่เป็นแอคชั่นคลาสสิกจากญี่ปุ่นที่ฮิตติดชาร์ตเลยนะครับ เนื้อเรื่องพูดถึงการล่าอันดับหนึ่งที่ต้องชิงฆ่าศัตรูก่อนที่เมล็ดพันธุ์ชั่วร้ายพวกมันจะเบ่งบานกลายเป็นภัยพิบัติ พระเอกออกตามล่าแบบไม่ยั้ง ชิงความได้เปรียบทุกฝีก้าว ลุ้นตัวโก่งไปหมด ถ้าคุณชอบเรื่องที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์ การต่อสู้ดุเดือด และธีม “ป้องกันก่อนถูกฆ่า” เรื่องนี้เหมาะมาก เหมือนเล่นเกม survival แต่เป็นนิยายที่อ่านแล้วรู้สึก adrenaline พุ่งปรี๊ด ผมชอบตรงที่มันไม่ยืดเยื้อ แต่ตีตรงจุดทุกฉากเลย
และปิดท้ายด้วยเรื่องที่ทำให้ผมหลอนจนนอนไม่หลับ นั่นคือ “นิยาย ธี่หยด…แว่วเสียงครวญคลั่ง”
เรื่องนี้คือสุดยอดนิยายสยองขวัญไทยจากสำนักแพรวเลยครับ ผู้เขียนกฤตานนท์เล่าเรื่องราวในเรือกสวนไร่นา ท่ามกลางความมืดมิดหนาวเหน็บ ทุกคนซุกตัวรอฟ้าสาง แต่แล้ว… “ธี่หยด… ธี่หยด…” เสียงหยดน้ำแว่วมา พร้อมเสียงครวญคลั่งที่ชวนให้ขนลุกซู่ เรื่องนี้สะท้อนสังคมลึกๆ แต่ผสมความลี้ลับแบบไทยๆ จนอ่านแล้วรู้สึกเหมือนถูกตามติด ถ้าคุณชอบนิยายผีที่ไม่ใช่แค่ jump scare แต่เล่นกับจิตใจแบบนี้ เรื่องนี้คือต้องมีติดหัวนอน ผมอ่านแล้วฝันร้ายทั้งคืนเลยนะ
ทั้งสามเรื่องนี้คือคอลเลกชันที่ผมเรียกว่า “Dark Thrills Pack” แฟนตาซีมืดๆ, ล่าอันดับหนึ่ง, และสยองขวัญครวญคลั่ง ที่ผสมกันแล้วรับประกันความตื่นเต้นแบบไม่ซ้ำรส ถ้าคุณอยากอัพเดทชีวิตด้วยนิยายดีๆ ที่อ่านแล้วลืมโลกจริง ผมแนะนำให้รีบไปสอยมาอ่านเลยนะ สั่งออนไลน์หรือหาในร้านหนังสือใกล้บ้านได้ง่ายๆ
แนะนำ 3 นิยายที่ทำให้คุณไม่กล้านอนคนเดียว ที่ทั้งหลอน ทั้งลึก ทั้งคม อ่านจบแล้วต้องตั้งคำถามกับชีวิต
นิยาย ลางร้ายแห่งสถานีครวญคลั่ง

ในใจกลางกรุงโซลที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน สถานีรถไฟใต้ดินอันคับคั่งกลับกลายเป็นสมรภูมิแห่งความตาย คังอจิน ชายหนุ่มที่เคยหายตัวไปจากโลกนี้เป็นเวลา 20 ปีในดาวอาร์เฟน กลับมาพร้อมพลังเนโครแมนเซอร์สุดน่าสะพรึงกลัว เขาควบคุมกองทัพโครงกระดูกและศพเดินได้ หวังเพียงใช้พลังนี้หาเงินเลี้ยงดูแม่และน้องสาวให้มีชีวิตที่ดี แต่โลกที่เขากลับมาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ดันเจี้ยนลึกลับผุดขึ้นทั่วเมือง และศัตรูจากต่างมิติที่เรียกว่า กราเบ็ด กำลังวางแผนยึดครองโลก อจินต้องเคลียร์ดันเจี้ยนในสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยมอนสเตอร์และปริศนาที่เชื่อมโยงกับอดีตของเขา เขาค้นพบว่าแต่ละดันเจี้ยนเหมือนเป็นเงาสะท้อนของดาวอาร์เฟน และทุกย่างก้าวที่เขาเดินหน้าต่อสู้ เขายิ่งเข้าใกล้ความจริงที่น่าสะพรึงกลัว
ข้ามฟากไปยังมหานครโตเกียว คิเคียว ชินจิ เด็กหนุ่มจากเขาเดวะ เดินทางมาด้วยภารกิจที่หนักอึ้ง หลังจากพ่อของเขา ชินสุเกะ ปรมาจารย์นักฆ่าเสียชีวิต คิเคียวสาบานว่าจะตามล่าศิษย์ทั้ง 10 คนของพ่อ ซึ่งกลายเป็นนักฆ่าที่ใช้ อาวุธพิสดาร ออกอาละวาดฆ่าคนไปทั่วเมือง อาวุธของพวกเขามีตั้งแต่ดาบที่พ่นไฟได้ ไปจนถึงเข็มพิษที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า คิเคียวที่ไม่เคยต่อสู้มาก่อนต้องใช้สติปัญญาและความกล้าเผชิญหน้ากับนักฆ่าเหล่านี้ เขาค้นพบว่าทุกครั้งที่กำจัดนักฆ่าได้หนึ่งคน เขาจะได้รับ ชิ้นส่วนปริศนา ที่พ่อของเขาทิ้งไว้ ราวกับเป็นคำใบ้ถึงแผนการอันยิ่งใหญ่ แต่ยิ่งเขาตามล่ามากเท่าไหร่ คิเคียวก็ยิ่งสงสัยว่าเป้าหมายที่แท้จริงของพ่อเขาคืออะไร และทำไมนักฆ่าเหล่านี้ถึงรู้จักชื่อของ คังอจิน?
ในหมู่บ้านเล็กๆ อันห่างไกลในประเทศไทย หยาด เด็กสาวจากครอบครัวชาวไร่ต้องเผชิญกับฝันร้ายที่ไม่อาจลืมเลือน น้องสาวของเธอ แย้ม ป่วยหนักโดยไม่มีสาเหตุ ขณะที่ข่าวลือเรื่อง ปอบ และสิ่งลี้ลับแพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้าน หยาดเริ่มเห็นลางร้าย เพื่อนร่วมชั้นที่ตายอย่างผิดธรรมชาติ หญิงสาวลึกลับที่ปรากฏตัวในศาลร้าง และ ยายช่วย หญิงชราที่อาศัยตัวคนเดียวในป่าเขา เสียง “ธี่หยด… ธี่หยด…” ดังก้องในยามค่ำคืน พร้อมกับพฤติกรรมแปลกๆ ของแย้มที่เหมือนถูกบางสิ่งครอบงำ เมื่อ จ่ามหันต์ และ ลุงพุฒิ ผู้มีวิชาอาคมเข้ามาช่วย พวกเขาค้นพบว่าแย้มถูกปอบตบะแก่กล้าสิงสู่ พี่ชายทั้งสามของหยาดตัดสินใจตัดกอไผ่หลังบ้าน ที่ซ่อนของปอบ และเผาทิ้ง แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ การเผากอไผ่นั้นกลับปลดปล่อยบางสิ่งที่ร้ายแรงยิ่งกว่า
เมื่อเรื่องราวของทั้งสามคนดำเนินไป เส้นทางของพวกเขาเริ่มมาบรรจบกันอย่างคาดไม่ถึง อจินค้นพบในดันเจี้ยนแห่งหนึ่งว่า กราเบ็ด ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาว แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างจาก พลังงานลี้ลับ ที่รั่วไหลจากมิติอื่น เขาพบสัญลักษณ์แปลกๆ ในดันเจี้ยนที่เหมือนกับเครื่องรางที่ยายช่วยในหมู่บ้านของหยาดเคยถือไว้ ขณะเดียวกัน คิเคียวตามรอยนักฆ่าคนสุดท้ายไปจนถึงกรุงโซล และได้พบกับอจินโดยบังเอิญ ทั้งสองเริ่มสงสัยว่าการต่อสู้ของพวกเขาอาจเกี่ยวข้องกัน
หยาด ซึ่งสูญเสียแย้มไปแล้ว เดินทางไปยังเมืองเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับปอบ เธอได้พบกับคิเคียวที่กำลังตามล่านักฆ่าคนหนึ่ง ซึ่งบังเอิญใช้เครื่องรางที่เหมือนกับของยายช่วย! เมื่อทั้งสามคนมารวมตัวกัน พวกเขาค้นพบว่า กราเบ็ด, นักฆ่าพิสดาร, และ ปอบ ล้วนเชื่อมโยงกับ มิติแห่งความมืด เดียวกัน มิติที่ถูกควบคุมโดย สิ่งมีชีวิตโบราณ ที่ชื่อว่า “นายแห่งครวญคลั่ง” สิ่งนี้ใช้พลังงานจากความกลัวและความตายของมนุษย์เพื่อขยายอำนาจ และมันกำลังใช้ทั้งสามคนเป็นหมากในเกมของมัน
อจิน, คิเคียว, และหยาดตัดสินใจรวมพลังเพื่อต่อสู้กับนายแห่งครวญคลั่ง อจินใช้กองทัพเนโครแมนเซอร์บุกตะลุยดันเจี้ยนสุดท้ายในสถานีโซล คิเคียวใช้ความรู้จากพ่อของเขาเพื่อถอนรากถอนโคนพลังงานลี้ลับ และหยาดใช้ความรู้จากยายช่วยในการทำพิธีขับไล่วิญญาณ การต่อสู้เต็มไปด้วยความสูญเสีย กองทัพของอจินถูกทำลายเกือบทั้งหมด, คิเคียวได้รับบาดเจ็บสาหัส, และหยาดต้องเผชิญหน้ากับภาพน้องสาวที่ถูกปอบครอบงำอีกครั้ง แต่ในที่สุด พวกเขาก็สามารถทำลายร่างกายของนายแห่งครวญคลั่งได้สำเร็จ
เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะจบลง อจินยืนมองสถานีโซลที่เงียบสงบอีกครั้ง คิเคียวเดินทางกลับเขาเดวะเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ และหยาดกลับไปที่หมู่บ้านเพื่อไว้อาลัยให้แย้ม พวกเขาคิดว่าชัยชนะเป็นของพวกเขา…
แต่ในคืนที่เงียบสงัด หยาดตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกหนาวสะท้าน เสียง “ธี่หยด… ธี่หยด…” ดังขึ้นอีกครั้งจากกอไผ่หลังบ้านที่ถูกเผาทิ้งไปแล้ว ขณะเดียวกัน ในโตเกียว คิเคียวพบว่าเครื่องรางของพ่อที่เขาคิดว่าได้ทำลายไปแล้ว กลับปรากฏขึ้นในกระเป๋าของเขา และที่สถานีโซล อจินมองเห็นเงาคล้ายนายแห่งครวญคลั่งยิ้มอยู่ในเงามืดของดันเจี้ยน
ทั้งสามคนได้รับจดหมายปริศนาพร้อมกันในคืนนั้น ข้างในมีข้อความเพียงสั้นๆ: “เจ้ามิอาจฆ่าความกลัวได้ เพราะข้าคือความกลัวของเจ้า” นายแห่งครวญคลั่งไม่ได้ถูกทำลาย มันเพียงแค่เปลี่ยนร่างและรอวันกลับมา โดยใช้ความกลัวในใจของอจิน, คิเคียว, และหยาดเป็นเชื้อเพลิง มันกระซิบในความมืดว่า “เกมนี้ยังไม่จบ” และเสียงครวญคลั่งนั้นดังก้องไปทั่วสามเมืองโซล, โตเกียว, และหมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศไทย พร้อมกับสัญญาณของหายนะครั้งใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้น
เอาล่ะทุกคน มาถึงช่วงท้าย หวังว่าการพาไปรู้จักสามนิยายสุดเดือด “เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีโซล เล่ม 1”, “ฉันจะตามล่า ไม่ให้แกฆ่าใครได้อีก”, และ “ธี่หยด…แว่วเสียงครวญคลั่ง” จะทำให้ทุกคนตื่นเต้นอยากคว้าไปอ่านกันเลย ไม่ว่าคุณจะเป็นสายแฟนตาซีเกาหลีที่มันส์สะใจ สายแอคชั่นสืบสวนญี่ปุ่นที่กวนๆ หรือสายสยองขวัญไทยที่หลอนจนนอนไม่หลับ สามเล่มนี้คือครบทุกอารมณ์ ผมอ่านแล้วฟินมาก รับรองว่าคุณจะวางไม่ลงเหมือนผมแน่นอน ถ้าชอบอย่าลืมกด แชร์