“ไพลอบแห้ง ออร์แกนิค” ชาสมุนไพรไทยแท้ 100% ไซส์ 50 และ 100 กรัม ไพลอบแห้งออร์แกนิคที่ขายกันอยู่ตอนนี้ เป็นสมุนไพรไทยแท้ ๆ ที่เอาเหง้าไพลสดมาล้างสะอาด ฝานบาง ๆ แล้วอบแห้งด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใส่สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น คัดเฉพาะไพลเกรดดี กลิ่นหอมแรง สีเหลืองสวย ไม่มีสีซีดหรือกลิ่นอับ มาบรรจุถุงซิปล็อกอย่างดี มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 50 กรัม กับ 100 กรัม เหมาะทั้งคนที่อยากลองใช้ครั้งแรก หรือคนที่ใช้ประจำอยากตุนไว้เยอะ ๆ
คนส่วนใหญ่รู้จักไพลในรูปแบบผงหรือน้ำมัน แต่รูปแบบ “อบแห้ง” แบบนี้กำลังมาแรง เพราะเก็บรักษาง่าย ใช้ได้นานเป็นปี แถมยังเอาไปทำได้สารพัด ทั้งต้มดื่มเป็นชา แช่น้ำร้อนอาบ ขัดผิว หรือเอาไปตำพอกก็สะดวกสุด ๆ
สินค้าชิ้นนี้คือ “เหง้าไพลอบแห้ง” เกรดออร์แกนิค 100% มาจากฟาร์มที่ปลูกแบบไม่ใช้สารเคมี ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น ไม่ผสมสมุนไพรตัวอื่น ฝานบางเฉียบเพื่อให้แห้งสนิทและสารสำคัญยังอยู่ครบ หลังอบจะมีกลิ่นหอมฉุนแบบไพลแท้ ๆ สีเหลืองทองสวย บรรจุในถุงฟอยล์ซิปล็อกกันชื้น มีฉลากบอกวันผลิต-วันหมดอายุชัดเจน เปิดใช้แล้วเก็บในตู้เย็นยิ่งดี ใช้ได้นาน 1-2 ปีเลย
คุณสมบัติสรรพคุณเด่นของไพลอบแห้ง
👉 แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยให้เรอเหม็นออกมาได้ดีมาก คนที่ชอบกินเผ็ด กินจุ หรือเครียดจนลมตีขึ้น เอาไพล 5-10 กรัมต้มกับน้ำ 1 ลิตร ดื่มแทนน้ำเปล่าทั้งวัน ช่วยให้ท้องโล่งภายใน 1-2 วัน
👉 แก้ท้องผูกตัวเด็ด เพราะไพลมีน้ำมันหอมระเหยที่ไปกระตุ้นลำไส้ให้บีบตัว คนที่ถ่ายยาก ถ่ายแข็ง ดื่มชาไพลต่อเนื่อง 3-5 วัน ลำไส้เริ่มทำงานดีขึ้น ถ่ายนุ่มเป็นปกติ
👉 บรรเทาเคล็ดขัดยอก ปวดกล้ามเนื้อ เอาไพลอบแห้งมาต้มน้ำอุ่น ผสมเกลือเม็ดนิดหน่อย เอามาผ้าชุบประคบร้อน ๆ ตรงบริเวณที่ปวด วันละ 2-3 รอบ ความร้อนจากไพลจะซึมเข้าเส้น ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น อาการปวดลดลงไวมาก
👉 ขัดผิว ฟอกผิวให้ขาวใส แบบโบราณ เอาชิ้นไพลอบแห้งมาแช่น้ำจนนิ่ม แล้วเอามาขัดตัวเบา ๆ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า สครับธรรมชาติที่แรงกว่ามะขามเยอะ ผิวที่หมอง ๆ จะค่อย ๆ ใสขึ้นแบบเห็นชัด
👉 มีสาร curcumin สูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบในร่างกาย เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ ผดผื่นคัน หรือข้ออักเสบ ดื่มเป็นชาระยะยาวร่างกายแข็งแรงขึ้น
จุดเด่นของ ไพลอบแห้ง
สิ่งที่ทำให้ตัวนี้ขายดีจนหมดเกลี้ยงทุกครั้งคือ “ความบริสุทธิ์แบบสุด ๆ” ไม่ผสมใบ ไม่ผสมรากอย่างอื่น ไม่ใส่สารกันเสีย ไม่แต่งกลิ่น กลิ่นไพลแรงสะใจคนชอบของแท้จริง ๆ แถมฝานบางมากจนต้มแค่ 5-10 นาทีสารออกหมด ไม่ต้องเคี่ยวให้นานเหมือนไพลก้อนใหญ่ ๆ จากท้องตลาด
อีกจุดคือความสะอาดระดับส่งออก ล้างมาสะอาดจริง ๆ ไม่มีดินติด ไม่มีเชื้อรา อบแห้งด้วยลมร้อนอุณหภูมิต่ำ ทำให้สาร curcumin และน้ำมันหอมระเหยยังอยู่ครบเกือบ 100% ไม่สูญเสียเหมือนการตากแดดแบบดั้งเดิม
และที่สำคัญคือราคาเข้าถึงง่ายมาก 50 กรัมใช้ได้นานเป็นเดือน 100 กรัมตุนไว้ใช้ทั้งปีก็ยังคุ้ม แถมแพ็กเกจดี ไม่ต้องย้ายกระปุกให้เสียเวลา
ถ้าอยากได้ไพลแท้ ๆ ที่สะอาด กลิ่นแรง สารครบ ใช้ได้สารพัดทั้งดื่มทั้งทา ตัวนี้คือคำตอบสุดท้าย ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลอีกแล้ว ใครได้ลองใช้ครั้งแรกคือติดใจทุกราย เก็บไว้ติดบ้านสักห่อ วันไหนท้องอืด ปวดเมื่อย ขัดผิว เปิดใช้ได้ทันที ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย
นิยาย เหง้าสีทองที่ลืมชื่อ
ในหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อบ้านไร่ทอง ช่วงปลายฝนต้นหนาว มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อนวล เธอเกิดมาพร้อมผิวคล้ำเกินเพื่อน หน้าตาธรรมดา จนชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “นวลดำ” เธอไม่เคยชอบชื่อนี้เลยสักวัน แม่ของนวลเสียไปตั้งแต่เธอยังไม่ทันจำความ พ่อก็ไปทำงานต่างจังหวัด เหลือแต่ยายแก่ๆ ที่เลี้ยงเธอด้วยข้าวสวยกับน้ำพริกปลาทู ส่วนเงินเก็บก็แทบไม่มี
วันหนึ่ง ยายล้มป่วย ท้องอืดเฟ้อจนท้องโตเหมือนคนท้องเก้าเดือน นอนร้องครวญครางทั้งคืน นวลวิ่งไปหาหมอประจำหมู่บ้าน หมอบอกว่ายายอายุมากแล้ว ลมในท้องเยอะ ต้องใช้สมุนไพรขับลมแรงๆ ถึงจะหาย แต่ยาที่หมอจ่ายราคาแพงเกินกว่าที่บ้านจะจ่ายไหว นวลนั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้าน จนลุงบุญชื่น ป้าขายของชำข้างบ้าน เดินมาบอกเบาๆ ว่า
“ลองไปหาป้าทองใบสิ มันมีของดีซ่อนอยู่”
ป้าทองใบเป็นคนแปลกประหลาดของหมู่บ้าน อายุร่วมเจ็ดสิบ อยู่บ้านคนเดียวปลายนา ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ชาวบ้านลือกันว่าป้าเคยเป็นหมอผีสมัยหนุ่มสาว บางคนก็ว่าเคยรวยมาก่อนแล้วจนเอา เพราะไปบนบานเรื่องไม่ดีไว้ นวลไม่สนใจคำลือ เธอเดินฝ่าทุ่งนาไปหาป้าทองใบแต่เช้ามืด
ป้าทองใบเปิดประตูออกมา ผมหงอกขาวทั้งหัว ใบหน้าเหี่ยวย่น แต่ตาคมกริบเหมือนเหยี่ยว ป้าไม่พูดพร่ำทำเพลง หยิบถุงผ้าใบหนึ่งโยนให้ แล้วพูดแค่ประโยคเดียว
“เอาไปต้มให้ยายกิน วันละกำมือ หมดแล้วอย่ามาหาแกอีก”
ในถุงมีเหง้าสีเหลืองทอง ฝานบางแห้งสนิท กลิ่นฉุนจนแสบจมูก นวลไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร แต่เธอเอามาต้มให้ยายกินจริงๆ วันแรก ยายยังนอนคราง วันที่สอง ยายลุกนั่งได้ วันที่สาม ยายเดินไปไหนมาไหนได้เหมือนคนปกติ ทุกคนในหมู่บ้านตะลึง นวลดีใจจนร้องไห้ แต่สิ่งที่ไม่มีใครรู้คือ ทุกครั้งที่ต้มเหง้าเหลืองนั้น นวลแอบดื่มตามยายด้วยสักแก้วสองแก้ว เพราะเธอท้องผูกเรื้อรังมานาน
ผ่านไปหนึ่งเดือน เกิดเรื่องประหลาดขึ้นกับนวล ผิวที่เคยคล้ำดำเริ่มจางลงอย่างเห็นได้ชัด ฝ้า กระ ที่เคยด่างเต็มหน้าค่อยๆ ลบเลือนไปทีละน้อย ผมที่เคยแห้งชี้กระเซิงเริ่มนุ่มลื่นเป็นประกาย ชาวบ้านเริ่มซุบซิบกันว่านวลไปทำคุณไสยกับป้าทองใบแน่ๆ เด็กที่เคยล้อว่า “นวลดำ” เริ่มเงียบกริบ บางคนถึงกับเรียกเธอว่า “นวลทอง” เสียงเบาๆ
นวลเริ่มสงสัย เธอเดินกลับไปหาป้าทองใบอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เพื่อขอ แต่เพื่อถาม ป้าทองใบยิ้มมุมปาก แล้วหยิบถุงผ้าใบเดิมมาให้อีกถุงหนึ่ง พร้อมพูดว่า
“มันไม่ใช่แค่ขับลมหรอกลูก มันคือไพลแท้ที่ป้าปลูกเองมาตั้งแต่หนุ่มสาว ไพลที่ป้าคัดแต่หัวดีๆ ฝานบางๆ อบด้วยลมร้อน ไม่ตากแดดให้สารสำคัญหายหมด ป้าเคยสวยมาก่อน สวยจนผู้ชายทั้งอำเภออยากได้ แต่พอป่าถูกบุกรุก ต้นไพลดีๆ หายไปหมด ป้าก็เลยเก็บเมล็ดพันธุ์ดีสุดท้ายไว้ปลูกคนเดียว ไม่ให้ใครรู้ ไม่ขายใคร”
นวลฟังแล้วน้ำตาไหล ป้าทองใบเล่าต่อว่า สมัยสาวๆ ป้ามีคนรักชื่อ “ชัย” เป็นนายทหารรูปงาม ทั้งสองรักกันมาก แต่ครอบครัวชัยไม่ยอม เพราะป้าเป็นแค่ลูกชาวนา ชัยถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกสาวนายอำเภอ วันแต่งงาน ป้าทองใบแอบไปยืนดูอยู่ไกลๆ แล้วบนบานกับศาลเจ้าป่าขอให้ “ถ้าข้าไม่ได้ความรัก ขอให้ข้าสวยไปตลอดกาลแทน” ตั้งแต่นั้นมา ป้าก็สวยวันสวยคืน แต่ก็โดนชาวบ้านกลัว ว่าป้าทำคุณไสย จนสุดท้ายป่าถูกเผา ต้นไพลถูกถาง ป้าก็เลยเก็บเมล็ดสุดท้ายไว้ แล้วสวยอยู่คนเดียวจนแก่
นวลถามว่า “แล้วทำไมป้าถึงให้หนู”
ป้าทองใบหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า “เพราะแกเหมือนป้าตอนเด็กๆ ผิวดำ ขี้เหร่ แต่ใจดี ป้าไม่อยากให้แกต้องบนอะไรโง่ๆ แบบป้า แกแค่กินไพลของป้าทุกวัน ผิวแกก็จะสวยเอง โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย”
นวลกลับบ้านด้วยถุงผ้าใบที่สอง คราวนี้เธอรู้แล้วว่ามันคือ “ไพลอบแห้ง ออร์แกนิค” ที่ป้าทองใบปลูกเอง คัดแต่หัวดี ฝานบาง อบถนอมสาร กลิ่นแรงจนแสบจมูก แต่กินแล้วดีจริงๆ เธอเริ่มแบ่งให้เพื่อนบ้านบ้าง ให้ยายบ้าง ให้คนปวดเมื่อยในหมู่บ้านบ้าง ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป จนทุกคนในหมู่บ้านเริ่มเรียกเธอว่า “นวลทอง” อย่างจริงจัง
ผ่านไปอีกสามเดือน วันหนึ่งมีรถยนต์หรูคันใหญ่ขับเข้ามาในหมู่บ้าน ผู้ชายวัยห้าสิบปลาย ผมหงอกจัดทรงดี ใส่สูทสีเทา เดินลงจากรถพร้อมดอกกุหลาบช่อโต เขาคือ “พันเอกชัย” ที่ตอนนี้เกษียณแล้ว เขามาหานวล เพราะได้ยินกิตติศัพท์ว่าเด็กสาวผิวขาวผ่องที่ชื่อนวลทอง มีถุงผ้าใบหนึ่งที่ช่วยให้คนหายป่วย เขาคิดว่ามันคือของที่รักเก่าของเขาเคยเล่าให้ฟังเมื่อสี่สิบปีก่อน
นวลเจอชายชรา เธอจำหน้าไม่ได้ แต่ป้าทองใบที่เดินตามหลังมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยกลับน้ำตาไหลพรากโดยไม่รู้ตัว ชัยคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ แล้วพูดว่า
“ทองใบ… ฉันไม่เคยลืมเธอเลย แม้แต่คืนเดียว ฉันมาหาเธอทุกปี แต่เธอไม่เคยเปิดประตูให้ข้าเลยสักครั้ง”
ป้าทองใบยิ้มทั้งน้ำตา แล้วพูดเบาๆ ว่า “ฉันไม่ได้บนไว้แบบนั้น ฉันบนแค่ขอสวยตลอดกาล แต่ไม่ได้บนว่าเธอจะต้องทุกข์นะชัย”
นวลยืนมองทั้งสองคน แล้วยกถุงผ้าใบสุดท้ายที่ป้าทองใบให้ไว้ ยื่นให้ชัย พร้อมพูดว่า
“ป้าบอกว่าไพลห่อนี้ เป็นห่อสุดท้ายที่ป้าจะให้ใคร หนูว่ามันควรเป็นของลุงมากกว่า”
ชัยรับถุงผ้ามาด้วยมือสั่น เขาเปิดออก ดมกลิ่นไพลที่เขาเคยดมสมัยหนุ่มสาวตอนแอบไปเจอป้าทองใบในป่า แล้วร้องไห้เหมือนเด็ก
ในวันงานศพของป้าทองใบ สามวันให้หลัง ป้าเสียอย่างสงบในเตียงนอน บนหน้าอกป้ามีถุงผ้าใบเล็กๆ วางอยู่ ข้างในไม่ใช่ไพล แต่เป็นจดหมายฉบับหนึ่ง เขียนด้วยลายมือสั่นเทา
“นวลหลานรัก
ป้าไม่ได้บนอะไรกับศาลเจ้าป่าหรอก ป้าแค่โกหกเจ้า เพราะอยากให้เจ้ามั่นใจในตัวเอง ป้าไม่เคยสวยด้วยไพล ป้าแค่กินมันทุกวันเพื่อให้แข็งแรง แล้วความมั่นใจนั่นแหละที่ทำให้คนเราสวย
ส่วนชัย… ป้าไม่เคยโกรธเขาเลย ป้าแค่กลัวว่าเขาจะกลับมาเห็นป้าแก่จนไม่กล้าเจอ
ไพลที่ป้าให้เจ้า ไม่ใช่ไพลวิเศษอะไรหรอก มันแค่ไพลดีๆ ที่ป้าปลูกเอง ป้าขอแค่ให้เจ้าเชื่อว่า ตัวเจ้ามีค่า และสมุนไพรไทยดีๆ ยังมีอยู่จริง
ถุงสุดท้าย ป้าให้ชัยไปแล้ว เพราะป้าอยากให้เขาดมกลิ่นที่เคยรักกันอีกครั้งก่อนตาย
ส่วนเจ้า… เจ้ามีเมล็ดพันธุ์ไพลที่ป้าฝากไว้ใต้ต้นมะขามหลังบ้านแล้ว ปลูกมันต่อไปนะ อย่าปล่อยให้ไพลดีๆ สูญพันธุ์อีก”
นวลยืนร้องไห้อยู่หน้าศพป้าทองใบ ส่วนชัยนั่งถือถุงไพลอบแห้งใบสุดท้าย กลิ่นหอมฉุนของมันลอยฟุ้งไปทั่วศาลา
วันนี้ บ้านไร่ทองไม่มีป้าทองใบแล้ว แต่มีสวนไพลออร์แกนิคขนาดใหญ่ที่ปลูกโดย “นวลทอง” เด็กสาวผิวขาวใสที่เคยถูกเรียกว่านวลดำ เธอบรรจุไพลอบแห้งลงถุงซิปล็อก 50 กรัม กับ 100 กรัม ส่งขายไปทั่วประเทศ พร้อมติดฉลากสั้นๆ ว่า
“ไพลอบแห้ง ออร์แกนิคแท้ 100%
จากสวนป้าทองใบ
คัดเกรด ปลอดสาร ฝานบาง อบถนอมสาร
แค่เชื่อในตัวเองและสมุนไพรไทย
คุณก็สวยและแข็งแรงได้ โดยไม่ต้องบนอะไรเลย”
และทุกครั้งที่มีคนถามว่า ไพลห่อนั้นวิเศษจริงหรือ นวลทองจะยิ้มแล้วตอบแค่ว่า
“มันวิเศษก็ต่อเมื่อคุณเชื่อว่ามันวิเศษ”

