พลั่วทำสวนด้ามไม้ + คราดทำสวนด้ามไม้ ชุดเครื่องมือสวนสารพัดประโยชน์ ตัวเล็กแต่แรงดี ถ้าพูดถึงเครื่องมือทำสวนที่คนมีพื้นที่สีเขียวเล็ก ๆ หรือชอบปลูกต้นไม้เป็นงานอดิเรกต้องมีติดบ้านไว้ ชุดพลั่วกับคราดด้ามไม้แบบนี้คือตัวเลือกที่คนนิยมมาก เพราะราคาไม่แพง ใช้งานง่าย พกพาสะดวก แถมทนทานเกินราคา เหมาะทั้งมือใหม่และคนทำสวนจริงจัง
ชุดนี้เป็นเครื่องมือทำสวนแบบพื้นฐานที่สุด ประกอบด้วย พลั่วทำสวนด้ามไม้ 2 ขนาด และคราดทำสวนด้ามไม้ 1 ชิ้น
→ พลั่วเหล็กชุบด้ามไม้รุ่นเล็ก หน้าใบ 15.5 × 13 ซม. ความยาวรวม 43 ซม.
→ พลั่วสนามด้ามไม้รุ่นใหญ่ หน้าใบ 18 × 15 ซม. ความยาวรวม 45.5 ซม.
→ คราดเหล็กชุบด้ามไม้ หน้าใบ 15 × 8.5 ซม. ความยาวรวม 31 ซม.
ทั้งหมดผลิตจากเหล็กชุบแข็ง (ไม่ใช่เหล็กหล่อที่แตกง่าย) ผิวเคลือบกันสนิม ด้ามไม้จริงจับเต็มมือ น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง เหมาะกับงานสวนขนาดเล็กถึงกลาง ทั้งขุดหลุมปลูกต้นไม้ พรวนดิน ถางหญ้า หรือเกลี่ยดินให้เรียบ
ความพิเศษของ พลั่ว-คราดด้ามไม้
👉 ใบเหล็กชุบหนา แข็งแรงมาก ใช้ขุดดินแข็ง ดินเหนียว หรือตัดรากหญ้าเล็ก ๆ ได้สบาย ไม่บิดงอ ไม่แตกหักง่ายเหมือนพลั่วราคาถูกทั่วไป
👉 ด้ามไม้จริงขัดเรียบ จับแล้วไม่ลื่น ไม่ลอก ไม่เกิดตะปูหรือหนามไม้แทงมือ น้ำหนักสมดุล ทำให้ใช้ต่อเนื่องนาน ๆ ไม่เมื่อย
👉 ขนาดกะทัดรัด พลั่วรุ่นเล็กเหมาะมือผู้หญิงและผู้สูงอายุ รุ่นใหญ่เหมาะงานหนักขึ้นนิดแต่ยังถือมือเดียวได้สบาย
👉 คราด 9 ซี่ ระยะห่างกำลังดี ใช้เกลี่ยดิน เก็บใบไม้แห้ง หรือถากหญ้าได้เนียน ไม่ทิ้งรอย
👉 ผิวเหล็กเคลือบกันสนิม ถ้าดูแลดี ๆ ใช้ได้นานหลายปี
จุดเด่นของ พลั่ว-คราดด้ามไม้
หลายคนที่เคยซื้อไปบอกตรงกันว่า “เล็กแต่ลุยได้จริง” เพราะถึงตัวจะสั้นและเบา แต่ใบเหล็กหนาและคมมาก ขุดดินกระถาง ขุดหลุมปลูกผักสวนครัว หรือถางหญ้าในร่องแคบ ๆ ทำได้เร็วกว่าพลั่วใหญ่ ๆ เยอะ แถมเก็บในรถยนต์หรือใต้ถุนบ้านได้สบาย ไม่กินที่ แถมราคาแค่หลักสิบแต่ความทนเกินตัว คนที่เคยใช้พลั่วพลาสติกหรือพลั่วบาง ๆ มาก่อน พอเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้แล้วติดใจทันที เพราะไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่บ่อย ๆ
อีกจุดที่คนชอบคือด้ามไม้จริงจับแล้วอุ่นมือ ไม่เย็นเฉียบเหมือนด้ามเหล็กหรือไฟเบอร์ในฤดูหนาว แถมถ้าด้ามหลวมแค่ตอกตะปูเพิ่มก็แน่นเหมือนเดิม ซ่อมง่าย ไม่ต้องทิ้งทั้งอัน
ถ้าอยากได้ชุดเครื่องมือทำสวนที่ “เล็กแต่แจ๋ว” ใช้งานได้จริงทุกวัน ไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ แต่ได้ความทนที่ไว้ใจได้ ชุดพลั่ว-คราดด้ามไม้ชุบเหล็กชุดนี้คือคำตอบสุดท้ายของคนทำสวนบ้าน ๆ หลายคนใช้มากว่า 5-10 ปี ใบยังคม ด้ามยังแน่น แค่ล้างให้สะอาด เก็บให้แห้ง ก็พร้อมลุยงานสวนได้อีกยาว ๆ แน่นอน
นิยาย พลั่วเล่มนั้นของพ่อ
ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างเขาเขียวกับลำธารใส มีบ้านไม้เก่าหลังหนึ่งที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หลังสี่ทุ่ม เพราะทุกคนรู้กันว่ามีเสียงเหล็กกระทบดินดังก้องจากสวนข้างบ้านนั้นทุกคืน
เด็กๆ เรียกเจ้าของบ้านว่า “ลุงชัยคนขุด” ลุงชัยเป็นชายร่างกำยัดวัยหกสิบกว่า หน้าตาดุแต่ไม่เคยทำร้ายใคร มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาพูดกับคนแปลกหน้าตลอดยี่สิบปี คือ “อย่าแตะพลั่วเล่มนั้นของกู” พลั่วเล่มนั้นคือพลั่วด้ามไม้ตัวเล็กที่แขวนอยู่ใต้ชายคาเสมอ ใบเหล็กชุบมันวาวจนสะท้อนแสงจันทร์ ด้ามไม้สีน้ำตาลเข้มราวกับถูกจับมาหลายชั่วอายุคน
ทุกคนเชื่อว่าลุงชัยขุดหลุมฝังอะไรบางอย่างทุกคืน บางคนบอกว่าเป็นสมบัติ บางคนบอกว่าเป็นศพ บางคนบอกว่าเป็นคำสาป เรื่องเล่าพวกนี้ทำให้เด็กในหมู่บ้านกลัวจนตัวสั่น แต่ก็มีเด็กคนหนึ่งที่ไม่เคยเชื่อ
ชื่อเด็กคนนั้นคือ “ต้น”
ต้นอายุสิบสี่ เป็นเด็กกำพร้าที่ลุงชัยเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่จำความได้ ลุงไม่เคยตี ไม่เคยด่า มีแต่สอนให้รู้จักรักต้นไม้ รักดิน รักเครื่องมือ แต่มีกฎข้อเดียวที่ห้ามละเมิดเด็ดขาด “อย่าแตะพลั่วเล่มนั้น” ต้นถามเป็นร้อยครั้งว่าทำไม ลุงชัยตอบเหมือนกันทุกครั้ง “เพราะมันไม่ใช่ของเล่น”
คืนหนึ่ง ฝนตกหนักมากจนไฟดับทั้งหมู่บ้าน ต้นนอนไม่หลับ ได้ยินเสียงลุงชัยไอหนักมากกว่าปกติ เสียงไอแหบแห้งจนน่าสงสาร ต้นลุกขึ้นมาเปิดไฟฉายส่องไปที่ห้องลุง ห้องว่างเปล่า ลุงไม่อยู่ ต้นเดินออกไปหน้าบ้าน เห็นแสงไฟฉายเล่มเล็กส่องสว่างที่สวนหลังบ้าน ลุงชัยนั่งยองๆ อยู่ข้างหลุมดินที่ขุดใหม่ ใบหน้าเปียกฝนปนน้ำตา มือกำพลั่วด้ามไม้เล่มนั้นแน่น
ต้นยืนมองจากระยะไกล เห็นลุงค่อยๆ วางอะไรบางอย่างลงไปในหลุม กล่องไม้เล็กๆ ที่ห่อด้วยผ้าขาว ต้นใจเต้นแรง คิดว่าทั้งหมดที่คนในหมู่บ้านเล่ามันจริง ลุงชัยฆ่าใครสักคนจริงๆ และคืนนี้คือคืนที่ลุงจะฝังหลักฐานสุดท้าย
ต้นวิ่งกลับเข้าบ้าน ใจเต้นตึกตัก คว้าพลั่วเล็กอีกเล่มที่ลุงให้ใช้ทำสวนประจำ แล้ววิ่งกลับไปที่สวน ตั้งใจจะขุดดูว่าลุงฝังอะไรไว้ แต่เมื่อถึงจุดนั้น ลุงชัยหายไปแล้ว เหลือเพียงหลุมที่ยังไม่กลบ และกล่องไม้ที่โผล่พ้นดินนิดหน่อย
ต้นคุกเข่าลง มือสั่นเทา ใช้พลั่วเล็กของตัวเองขุดกล่องนั้นขึ้นมา เปิดออก ภายในไม่มีเลือด ไม่มีกระดูก ไม่มีสมบัติทองคำ มีเพียง… จดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนด้วยลายมือสั่นเทา และรูปถ่ายเก่าๆ ใบหนึ่ง
รูปถ่ายเป็นภาพลุงชัยตอนยังหนุ่ม ยืนกอดเด็กทารกคนหนึ่งไว้แน่น เด็กคนนั้นคือต้นเอง
จดหมายเขียนว่า
“ต้น… ถ้าลุงไม่อยู่แล้ว ให้นำกล่องนี้ไปฝังใต้ต้นมะม่วงที่เราปลูกด้วยกันตอนเจ้าอายุเจ็ดขวบ ลุงอยากให้รากของมันดูดซับความรักที่ลุงมีให้เจ้าไว้ตลอดไป พลั่วเล่มนี้คือเล่มที่ลุงใช้ขุดหลุมฝังเมล็ดมะม่วงวันนั้น และใช้ขุดหลุมฝังความทรงจำดีๆ ทุกครั้งที่คิดถึงเจ้าในวันที่ลุงป่วยหนักจนกลัวจะลืมหน้าเจ้า ลุงไม่เคยฆ่าใคร ลุงแค่กลัวลืมความสุขเพียงอย่างเดียวที่มีในชีวิต”
ต้นอ่านจบ น้ำตาไหลพรากโดยไม่รู้ตัว มือกำจดหมายแน่นจนยับ เขาหันไปมองพลั่วด้ามไม้เล่มนั้นที่วางพิงต้นไม้ มันไม่ใช่อาวุธ ไม่ใช่คำสาป มันคือ “หัวใจ” ของลุงชัยที่เก็บความรักไว้ในรูปของเหล็กและไม้
ต้นรีบวิ่งกลับบ้าน เปิดประตูห้องลุงชัย เห็นลุงนอนนิ่งอยู่บนเตียง หน้าอิ่มเอมเหมือนคนที่ทำภารกิจสุดท้ายสำเร็จ ต้นร้องไห้กอดลุงแน่น แต่ลุงจากไปแล้วจริงๆ
วันรุ่งขึ้น ต้นทำตามที่ลุงขอ ฝังกล่องไม้ใต้ต้นมะม่วงด้วยพลั่วเล่มนั้นของลุง ฝนหยุดตกแล้ว แสงเช้าสาดส่องใบมะม่วงอ่อนที่กำลังผลิใบใหม่ ต้นนั่งมองต้นไม้อยู่นาน แล้วหยิบพลั่วด้ามไม้เล่มนั้นขึ้นมาจับแน่น
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมลุงถึงห้ามแตะ เพราะมันไม่ใช่แค่พลั่ว มันคือ “พ่อ” ในรูปแบบที่ลุงเลือกมอบให้
หลายปีผ่านไป หมู่บ้านยังคงเล่าเรื่องลุงชัยคนขุดกันอยู่ แต่เด็กๆ รุ่นใหม่ไม่กลัวอีกต่อไป เพราะทุกเย็นจะมีหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นมะม่วงใหญ่ ใช้พลั่วด้ามไม้ตัวเล็กขุดดินรอบโคนต้นเบาๆ พร้อมยกขึ้นสูดกลิ่นดินที่ติดใบเหล็กทุกครั้ง
คนในหมู่บ้านเรียกเขาว่า “ต้นคนขุด”
และทุกครั้งที่มีคนถามว่า “ทำไมต้องใช้พลั่วเล่มเล็กจัง”
ต้นจะยิ้มแล้วตอบเหมือนที่ลุงเคยตอบเขา
“เพราะมันไม่ใช่ของเล่น… มันคือความรักที่ขุดลงดินแล้วไม่มีวันตาย”

