ทุกวันนี้เรื่องสุขภาพอนามัยกลายเป็นสิ่งที่เราต้องใส่ใจมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะออกไปทำงาน เดินทาง หรือใช้ชีวิตประจำวัน การมีไอเท็มที่ช่วยให้เรารู้สึกมั่นใจว่าสะอาดและปลอดภัยถือว่าสำคัญสุดๆ วันนี้เลยอยากมาแนะนำของใช้จากแบรนด์ญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพอย่าง IRIS OHYAMA ที่มีทั้ง หน้ากากอนามัย V-FIT และ ผ้าเช็ดทำความสะอาด Sensitive Wet Wipes ซึ่งเป็นคู่หูดูแลสุขภาพที่ครบจบในแบรนด์เดียว
หน้ากากอนามัย V-FIT รุ่นนี้ออกแบบมาให้กระชับเข้ากับใบหน้า ใส่สบาย ไม่เจ็บหู แถมยังมีแผ่นกรอง 3 ชั้นที่ช่วยป้องกันสิ่งไม่พึงประสงค์ได้ดี เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ส่วนผ้าเช็ดทำความสะอาด Sensitive Wet Wipes ก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ควรพกติดตัว เนื้อผ้านุ่ม อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน ใช้ได้ทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่
ถ้าใครกำลังมองหาของใช้ที่ช่วยดูแลสุขภาพแบบครบๆ ทั้งป้องกันและทำความสะอาด แบรนด์ IRIS OHYAMA ตอบโจทย์มากๆ หน้ากากใส่แล้วมั่นใจ ผ้าเช็ดก็สะอาดอ่อนโยน พกไปไหนก็สะดวกสบาย ถือว่าเป็นไอเท็มที่ควรมีติดบ้านและติดกระเป๋าไว้เลยครับ เพราะสุขภาพดีเริ่มต้นจากการดูแลตัวเองในทุกๆ วัน ✨
2 ไอเทมญี่ปุ่น Mask & Wet Wipes วันหนึ่งของคนกลัวเชื้อ ของเล็กๆ ที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยขึ้นทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
นิยาย หน้ากากสีขาวแห่งความจริง
ในปี 2047 เมืองหลวงที่เคยชื่อกรุงเทพฯ ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น นิวโพลิส โดยรัฐบาลสหพันธ์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อากาศหนาแน่นไปด้วยหมอกพิษสีเทาเข้มที่ไม่มีวันจาง ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันสุขภาพแห่งชาติ ใครถอดหน้ากากในที่สาธารณะ โดนปรับหนักหรือถูกจับเข้าค่ายปรับทัศนคติ หน้ากากที่รัฐจัดสรรให้เป็นสีเทาเข้ม ผลิตจากโรงงานกลาง ราคาถูก แต่กรองได้แค่ฝุ่นหยาบๆ คนส่วนใหญ่ยอมรับชะตากรรมนั้น เพราะไม่มีทางเลือก
“ลิน” เด็กสาวอายุ 17 ปี อาศัยอยู่ในย่านชานเมืองที่เต็มไปด้วยตึกแถวเก่าๆ เธอเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ แต่โรงเรียนจริงๆ แล้วกลายเป็นศูนย์ฝึกอบรมแรงงานไปนานแล้ว ลินชอบเดินสำรวจตรอกซอกซอยหลังเลิกเรียน เธอเก็บขยะเก่าๆ มาซ่อม มาอ่านข้อมูลจากชิปเก่าที่รัฐสั่งทำลาย เธอเชื่อเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติกับโลกนี้ แต่ยังหาคำตอบไม่ได้
วันหนึ่ง ขณะที่ลินกำลังรื้อถังขยะหลังตลาดมืด เธอพบกล่องกระดาษสีขาวสะอาดผิดปกติ ด้านในมีหน้ากากอนามัยสีขาวบริสุทธิ์ บรรจุในแพ็ค 30 ชิ้น ตัวหน้ากากบางเบา ทรงโค้งรับรูปหน้า มีสายคล้องนุ่ม และแถบปรับจมูกที่ยืดหยุ่นสูง ด้านกล่องเขียนว่า IRIS OHYAMA Disposable Face Mask NVN-30RM V-Fit 30pcs มีเลขจดแจ้งแปลกๆ ที่ไม่ใช่รหัสของรัฐ ลินหยิบขึ้นมาสวมทันที อากาศที่ไหลเข้ามาสะอาดกว่าที่เคยหายใจมาตลอดชีวิต เธอรู้สึกเหมือนโลกเปิดกว้างขึ้น กรองละเอียดจนหมอกพิษแทบไม่เหลือกลิ่น
ลินเก็บกล่องนั้นกลับบ้านอย่างระวัง เธอเริ่มสืบจากข้อมูลเก่าที่เคยแฮ็กระบบห้องสมุดใต้ดิน IRIS OHYAMA เป็นแบรนด์จากยุคก่อนการรวมชาติ ผลิตหน้ากากคุณภาพสูงเพื่อสุขภาพจริงๆ ไม่ใช่เพื่อควบคุมประชาชน เธอเริ่มสงสัยว่าทำไมรัฐถึงห้ามหน้ากากสีขาวและสูตรกรองดีๆ แบบนี้ เธอตัดสินใจสวมมันออกไปข้างนอกทุกวัน โดยซ่อนไว้ใต้หน้ากากเทาของรัฐ
ไม่นาน เพื่อนสนิทชื่อ “ต้น” ซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่ขายของตลาดมืด หายตัวไป ต้นเคยเล่าให้ลินฟังว่าเขาพบซองพลาสติกสีชมพูอ่อนในถังขยะเดียวกัน มีทิชชู่เปียก 20 แผ่น กลิ่นไม่มี แต่นุ่มมาก ใช้เช็ดมือแล้วสะอาดจริง ลดแบคทีเรียได้โดยไม่ระคายเคือง เขาบอกว่ามันคือ IRIS OHYAMA Sensitive Wet Wipes สูตรปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน น้ำหอม เหมาะกับผิวเด็กและคนแพ้ง่าย ต้นเอาไปขายในตลาดมืดได้ราคาดี เพราะคนเริ่มเบื่อเจลล้างมือของรัฐที่ทำให้ผิวแห้งแตก
ลินเริ่มสืบเรื่องการหายตัวของต้น เธอเดินตามรอยจากกล่องหน้ากากและซองทิชชู่เปียกที่พบในตรอกเดียวกัน เธอใช้ทิชชู่เปียกเช็ดรอยนิ้วมือบนกำแพงเก่าๆ เพื่อหาหลักฐาน เช็ดคราบสกปรกบนพื้นเพื่อดูรอยเท้า เธอพบรหัสลับเขียนด้วยหมึกที่มองเห็นได้เฉพาะเมื่อเช็ดด้วยทิชชู่เปียกสูตรนี้ เพราะส่วนผสมบางอย่างทำปฏิกิริยากับหมึกพิเศษ รหัสนั้นนำทางเธอไปยังโกดังร้างใต้สะพานลอย
ในโกดัง ลินพบต้นถูกจับมัดไว้ พร้อมคนอีกหลายคน ต้นบอกว่าพวกเขาถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจับ เพราะขายของต้องห้าม เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินเข้ามา ถอดหน้ากากเทาออก เผยให้เห็นว่าเขาสวมหน้ากากสีขาว V-Fit อยู่ข้างใน เขายิ้มแล้วพูดว่า “เด็กน้อย เธอเก่งที่ตามมาถึงที่นี่ได้ เราคือกลุ่มใต้ดินที่พยายามแจกจ่ายหน้ากากและทิชชู่เปียก IRIS OHYAMA เพื่อให้คนหายใจสะอาดและรักษาความสะอาดผิวได้จริง ไม่ใช่ของรัฐที่ผสมสารทำให้คนง่วงซึมและผิวหนังเสื่อม” ลินตกใจ นี่คือการเปิดเผยครั้งใหญ่ กลุ่มนี้แอบนำเข้าสินค้าเก่าจากยุคเสรี เพื่อปลุกประชาชนให้ตื่น รัฐสร้างหมอกพิษขึ้นเองเพื่อควบคุมคนให้ต้องพึ่งหน้ากากของรัฐที่มีสารเสพติดเบาๆ ทำให้คนเชื่อฟัง
ลินเข้าร่วมกลุ่มทันที เธอใช้ความรู้ด้านการแฮ็กระบบช่วยวางแผนแจกจ่ายหน้ากาก V-Fit และ Sensitive Wet Wipes ผ่านตลาดมืด คนเริ่มหายใจโล่งขึ้น ผิวดีขึ้น ไม่แห้งแตกอีก การเคลื่อนไหวขยายตัวอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงเริ่มตามล่า เธอและต้นกลายเป็นเป้าหมายหลัก ลินสวมหน้ากากสีขาวตลอดเวลา ใช้ทิชชู่เปียกเช็ดหลักฐานทุกครั้งที่หลบหนี เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังต่อสู้กับระบบจริงๆ เป็นครั้งแรก
หลายเดือนผ่านไป การจับกุมกลุ่มใต้ดินสำเร็จ รัฐประกาศชัยชนะทางโทรทัศน์ ลินถูกจับพร้อมต้นและคนอื่นๆ นำตัวไปที่ศูนย์ปรับทัศนคติ เธอถูกบังคับให้ถอดหน้ากากสีขาวออก เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนเดิมเดินเข้ามา ยิ้มกว้างแล้วพูดว่า “ยินดีด้วย เธอผ่านการทดสอบแล้ว” ลินงงงวย เขาอธิบายต่อว่า ทั้งหมดนี้คือแผนของรัฐระดับสูงสุด กลุ่มใต้ดินที่เธอเข้าร่วมถูกสร้างขึ้นโดยรัฐเอง เพื่อค้นหาคนที่มีศักยภาพต่อต้านสูงสุด
หน้ากาก V-Fit และ Sensitive Wet Wipes ที่แท้จริงคือสินค้าต้นแบบใหม่ที่รัฐกำลังทดลองแจกจ่ายให้กับ “พลเมืองชั้นสูง” เท่านั้น คนธรรมดาจะยังได้ของเก่าที่มีสารควบคุมต่อไป การเคลื่อนไหวทั้งหมดถูกเฝ้าดูตลอดเวลา เพื่อกำจัดคนที่ตื่นตัวเกินไป และดึงคนที่มีความสามารถอย่างลินเข้ามาทำงานให้รัฐในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูง
ลินมองต้นที่ยืนยิ้มข้างเจ้าหน้าที่ ต้นพูดเบาๆ ว่า “ขอโทษนะลิน ฉันทำงานให้เขามาตลอด” โลกที่เธอคิดว่ากำลังเปลี่ยนแปลง กลับกลายเป็นเพียงการคัดเลือกบุคลากรให้ระบบที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น หน้ากากสีขาวที่เธอรัก กลายเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นใหม่ที่เธอถูกบังคับให้เข้าร่วม ไม่มีทางเลือกอีกต่อไป เธอสวมมันกลับเข้าที่หน้า หายใจสะอาดในอากาศพิษที่รัฐสร้างขึ้น เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองไว้ชั่วนิรันดร์
ลินยืนนิ่งอยู่ในห้องสอบสวนที่เย็นเฉียบ แสงไฟนีออนสีขาวจ้าสาดลงบนใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยหน้ากาก V-Fit อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ระดับสูงชื่อ “พลเอกเรืองยศ” เดินวนรอบตัวเธอช้าๆ เสียงรองเท้าบู๊ตกระทบพื้นดังก้องในความเงียบ ต้นยืนพิงกำแพง มือล้วงกระเป๋า สายตาที่เคยอบอุ่นตอนนี้เย็นชาเหมือนคนแปลกหน้า
“เธอเก่งกว่าที่เราคาดไว้มาก” พลเอกเรืองยศพูดเสียงนุ่มแต่แฝงความเย็นยะเยือก “อีกไม่กี่เดือน ขบวนการใต้ดินของเธอเกือบจะพลิกเกมทั้งกระดานแล้ว ถ้าเราไม่ควบคุมตั้งแต่ต้น”
ลินกัดฟันแน่นใต้หน้ากาก เธอรู้สึกถึงความนุ่มของสายคล้องหูที่เคยทำให้รู้สึกปลอดภัย ตอนนี้มันกลับเหมือนโซ่ตรวนที่รัดแน่น เธอถูกนำตัวไปยังชั้นลึกใต้ดินของอาคารความมั่นคงแห่งชาติ ห้องพักที่จัดให้เหมือนอพาร์ตเมนต์หรู ทุกอย่างสะอาดหมดจด มีหน้ากาก IRIS OHYAMA V-Fit วางเรียงไว้เต็มตู้ และซอง Sensitive Wet Wipes สีชมพูอ่อนวางกองสูงบนโต๊ะ แต่ทุกอย่างถูกติดตามด้วยกล้องที่ซ่อนอยู่ในทุกมุม
ในคืนแรก ลินนอนไม่หลับ เธอหยิบซองทิชชู่เปียกขึ้นมาแผ่นหนึ่ง เช็ดมือช้าๆ ความนุ่มและความสะอาดที่เคยทำให้รู้สึกเข้มแข็ง ตอนนี้กลับทำให้รู้สึกว่างเปล่า เธอสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ บนมุมซองมีรหัสตัวเลขเล็กๆ จางๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เธอใช้ทิชชู่เปียกแผ่นใหม่เช็ดซ้ำหลายๆ รอบ รหัสค่อยๆ ชัดขึ้น เป็นพิกัดใต้ดินและข้อความสั้นๆ “ยังมีคนรออยู่”
ลินเริ่มแอบสืบในระบบภายในที่เธอได้รับสิทธิ์เข้าถึงในฐานะ “เจ้าหน้าที่ฝึกหัดชั้นสูง” เธอค้นพบว่าหน้ากากสีเทาของรัฐไม่ได้ผสมแค่สารทำให้ง่วงซึมอย่างที่กลุ่มใต้ดินบอก แต่ยังมีนาโนชิปขนาดเล็กฝังอยู่ในชั้นกรอง ชิปนั้นบันทึกข้อมูลการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ และตำแหน่งของผู้สวมใส่ ส่งข้อมูลกลับไปยังศูนย์กลางทุกห้านาที ส่วนหน้ากาก V-Fit และทิชชู่เปียก Sensitive ที่รัฐเก็บไว้ให้ชนชั้นสูงนั้นปราศจากชิป เพราะคนเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องถูกควบคุม
หลายสัปดาห์ผ่านไป ลินถูกฝึกให้เป็นนักวิเคราะห์ข้อมูล เธอต้องนั่งหน้าจอตรวจจับ “บุคคลที่มีแนวโน้มต่อต้านสูง” จากข้อมูลการหายใจที่ผิดปกติ เช่น คนที่หายใจลึกบ่อยเกินไป หรือคนที่อัตราการเต้นหัวใจสูงตอนเห็นข่าวโฆษณาชวนเชื่อ ทุกครั้งที่เธอรายงานชื่อใครสักคน ชื่อนั้นจะหายไปจากระบบในวันถัดมา
คืนหนึ่ง ลินแอบใช้ทิชชู่เปียก Sensitive เช็ดหน้าจอคอมพิวเตอร์เก่าในห้องส่วนตัว ส่วนผสมในน้ำยาบางอย่างทำให้รอยนิ้วมือเก่าปรากฏขึ้นเป็นเส้นทางรหัส เธอตามรหัสนั้นไปจนเจอไฟล์ลับชื่อ “โครงการฟีนิกซ์” ไฟล์ระบุว่ารัฐไม่ได้สร้างหมอกพิษเพื่อควบคุมประชาชนอย่างเดียว แต่เพื่อทดลองมนุษย์กลุ่มใหม่ที่สามารถหายใจในสภาพแวดล้อมพิษได้โดยไม่ต้องพึ่งหน้ากาก กลุ่มทดลองคือเด็กกำพร้าที่ถูกฉีดสารตั้งแต่เกิด รวมถึงต้น เพื่อนสนิทที่หักหลังเธอ
ลินตัดสินใจเสี่ยง เธอแอบติดต่อคนที่รออยู่ตามพิกัดใต้ดิน เป็นกลุ่มเล็กๆ ที่แท้จริง ไม่ใช่กลุ่มหลอกของรัฐ พวกเขาบอกเธอว่ามีเพียงไม่กี่คนที่รู้ความจริงทั้งหมด และต้นคือหนึ่งในเด็กทดลองที่ถูกฝังชิปควบคุมสมองตั้งแต่เด็ก เขาไม่ได้ทรยศเพราะเต็มใจ แต่เพราะชิปสั่งการ
ลินวางแผนช่วยต้นและทำลายศูนย์ควบคุมชิปนาโน เธอใช้หน้ากาก V-Fit ที่ไม่มีชิปเป็นเครื่องมือหลัก ซ่อนอุปกรณ์ขนาดเล็กไว้ในช่องแถบปรับจมูก และใช้ทิชชู่เปียก Sensitive ลบร่องรอยดีเอ็นเอทุกครั้งที่เคลื่อนไหว คืนปฏิบัติการมาถึง ลินแอบพาต้นออกจากห้องขังชั้นสูง เธอใช้ทิชชู่เปียกเช็ดคอของเขาเบาๆ เพื่อให้ส่วนผสมบางอย่างรบกวนสัญญาณชิปชั่วคราว ต้นตื่นจากภวังค์ชั่วขณะ มองเธอด้วยสายตาที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง “ลิน…ฉันขอโทษ”
ทั้งสองบุกเข้าไปในห้องควบคุมหลัก ลินอัพโหลดไวรัสที่เธอเขียนขึ้นโดยใช้ข้อมูลจากไฟล์โครงการฟีนิกซ์ ไวรัสแพร่กระจายไปยังชิปนาโนทุกชิ้นในหน้ากากสีเทาทั่วเมือง ระบบล่มลงในพริบตา ประชาชนหลายล้านคนเริ่มถอดหน้ากากออกพร้อมกันครั้งแรกในรอบหลายสิบปี อากาศยังพิษอยู่ แต่หัวใจของพวกเขาเริ่มหายใจเป็นอิสระ
แต่ในวินาทีที่ระบบดับ พลเอกเรืองยศเดินเข้ามาพร้อมทีมพิเศษ เขายิ้มกว้าง “เธอคิดว่าจบแล้วงั้นหรือ” เขาถอดหน้ากาก V-Fit ออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ไม่มีร่องรอยของการหายใจพิษใดๆ “ฉันคือคนรุ่นแรกของโครงการฟีนิกซ์ ฉันไม่ต้องการหน้ากากมาตั้งแต่เกิด เมืองนี้ถูกสร้างมาเพื่อคัดเลือกคนอย่างเธอและฉัน ให้กลายเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ที่แข็งแกร่งกว่า ส่วนคนที่เหลือ…ก็แค่ปุ๋ยสำหรับโลกใหม่”
ลินมองต้นที่เริ่มสั่นเพราะชิปกำลังรีบูต เธอหยิบซอง Sensitive Wet Wipes แผ่นสุดท้าย เช็ดน้ำตาตัวเองเบาๆ แล้วยิ้มให้ต้น “อย่างน้อย เราก็ทำให้คนหลายล้านคนได้หายใจครั้งสุดท้ายด้วยความเป็นมนุษย์”
เธอกดปุ่มทำลายตัวเองของระบบทั้งหมด ไฟดับสนิท เสียงกรีดร้องของประชาชนที่เพิ่งถอดหน้ากากดังก้องไปทั่วเมือง หมอกพิษหนาทวีคูณขึ้นอย่างรวดเร็วจากโรงงานที่ถูกปลดล็อก ลินกอดต้นไว้แน่นใต้หน้ากากสีขาวที่ยังคงกรองอากาศสะอาดให้เธอได้อีกไม่กี่นาที
ในความมืดมิด เธอกระซิบเบาๆ “ถึงจะแพ้ แต่เราก็เลือกที่จะหายใจด้วยตัวเองจนวินาทีสุดท้าย”
และในคืนนั้น นิวโพลิสก็เงียบลงอีกครั้ง แต่คราวนี้ ไม่มีใครสวมหน้ากากอีกแล้ว ไม่ว่าจะสีเทาหรือสีขาว

