ฟิล์ม Kodak ฟิล์มหายากตัวท็อปที่ถ่ายยังไงก็สวย ทั้งกลางวันกลางคืน

ฟิล์ม Kodak สุดฮิต 3 รุ่น ที่สายถ่ายรูป analogue ต้องรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดเล่นฟิล์ม หรือมือโปรที่อยากได้ฟิล์มคุณภาพดี ราคาไม่แรง

1. Kodak Color Plus 200 – ฟิล์มสุดคุ้ม ตัวเริ่มต้นของทุกคน

คุณสมบัติ
ISO: 200 (ไวแสงปานกลาง เหมาะกับแสงธรรมชาติ)
จำนวนภาพ: 36 ภาพ (บางรุ่นมี 24 ภาพ)
ประเภท: ฟิล์มสี Negative 35mm
จุดเด่น: ราคาย่อมเยา สีสันสดใส ถ่ายง่ายทุกสถานการณ์
เหมาะกับ: มือใหม่, ถ่ายวิวทิวทัศน์, ถ่ายบุคคล, หรือถ่ายในที่แสงเยอะ

ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นฟิล์ม แล้วอยากได้ฟิล์มที่ถ่ายง่าย ราคาไม่แรง Kodak Color Plus 200 คือคำตอบ ฟิล์มตัวนี้ให้สีสันที่สดใส คมชัด โดยเฉพาะในแสงแดดจัดๆ อย่างถ่ายวิวทะเล ภูเขา หรือถ่ายเพื่อนตอนไปคาเฟ่คือสวยเลย โทนสีจะออกแนวอบอุ่นนิดๆ แต่ไม่หนักเท่า Gold 200 ซึ่งทำให้มันเหมาะกับทุกสไตล์การถ่ายรูป ไม่ว่าจะถ่ายคนหรือวิวก็รอด ที่สำคัญ ถ้าถ่ายในที่แสงน้อยนิดๆ แล้วเปิดแฟลชกล้อง ภาพที่ได้จะออกมาสวยปังมากกก

ทำไมต้องเลือก?
ราคาคุ้มสุด: ถูกกว่า Gold และ Ultramax แต่คุณภาพไม่แพ้ตัวอื่นเลย
ถ่ายง่าย: เหมาะกับทุกกล้อง 35mm ไม่ว่าจะเป็นกล้องคอมแพคหรือ SLR
อเนกประสงค์: ถ่ายได้ทั้งวิว บุคคล หรือแม้แต่สแนปช็อตในชีวิตประจำวัน
เหมาะกับมือใหม่: ไม่ต้องคิดเยอะ ถ่ายในที่แสงดีๆ หรือใช้แฟลชก็สวยแล้ว

Tips: ถ้าจะถ่าย Color Plus 200 ให้ได้ฟีลสุดปัง ลองถ่ายตอนช่วงบ่ายที่แดดกำลังสวย หรือถ้าถ่ายในร่ม ใช้แฟลชช่วยหน่อย รับรองภาพออกมาสีสวย คอนทราสต์ดี แบบที่เพื่อนต้องถามว่าใช้ฟิล์มอะไร

2. Kodak Gold 200 – ฟิล์มโทนอุ่น คลาสสิกสุดใจ

คุณสมบัติ
ISO: 200 (ไวแสงปานกลาง เหมาะกับแสงธรรมชาติ)
จำนวนภาพ: 36 ภาพ (บางรุ่นมี 24 ภาพ)
ประเภท: ฟิล์มสี Negative 35mm
จุดเด่น: โทนสีอุ่นอมเหลือง คมชัด ให้ฟีลวินเทจแบบคลาสสิก
เหมาะกับ: ถ่ายวิวทิวทัศน์, ถ่ายบุคคล, ถ่ายในที่โล่งแจ้ง

Kodak Gold 200 คือฟิล์มที่ให้ลุควินเทจแบบที่สาย analogue หลงรัก ตัวนี้จะให้โทนสีที่อุ่นๆ อมเหลืองนิดๆ ทำให้ภาพดูมีเสน่ห์แบบย้อนยุค ถ่ายวิวทิวทัศน์อย่างป่าเขา ทะเล หรือถนนในเมืองตอนเย็นๆ คือสวยมากกก โดยเฉพาะถ้าถ่าย portrait โทนสีผิวจะออกมาดูเนียน อบอุ่น ละมุนสุดๆ เหมาะกับการถ่ายในแสงธรรมชาติ เช่น ช่วงเช้าหรือบ่ายที่แดดกำลังนุ่มๆ คอนทราสต์และความคมชัดของฟิล์มตัวนี้ก็อยู่ในระดับดีเยี่ยม ภาพที่ได้จะดูมีมิติ ไม่แบน

ทำไมต้องเลือก?
โทนสีวินเทจ: ให้ฟีลภาพถ่ายสมัยก่อน เหมาะกับคนที่ชอบสไตล์ย้อนยุค
ถ่าย portrait สวย: สีผิวออกมาดูดีมาก ถ่ายเพื่อนหรือนางแบบคือปัง
เหมาะกับแสงแดด: ถ่ายในที่โล่งแจ้ง ภาพจะออกมาสวยคมชัด สีสันจัดจ้าน
ใช้งานง่าย: เหมาะกับทั้งกล้อง point-and-shoot และกล้องโปร

Tips : อยากให้ภาพจาก Gold 200 ออกมาสุดยอด ลองถ่ายในช่วง Golden Hour (ตอนเช้าตรู่หรือก่อนพระอาทิตย์ตก) จะได้โทนสีอุ่นๆ ที่สวยแบบตะโกน! ถ้าถ่ายในที่ร่มอาจจะต้องพึ่งแฟลชหรือแสงไฟช่วยนิดนึงนะ

3. Kodak Ultramax 400 – ฟิล์มสายลุย ถ่ายได้ทุกสภาพแสง

คุณสมบัติ
ISO: 400 (ไวแสงสูง เหมาะกับทุกสภาพแสง)
จำนวนภาพ: 36 ภาพ (บางรุ่นมี 24 ภาพ)
ประเภท: ฟิล์มสี Negative 35mm
จุดเด่น: ไวแสงสูง ถ่ายได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง สีสันสดใส คมชัด
เหมาะกับ: ถ่ายวิว, ถ่ายบุคคล, ถ่ายในที่แสงน้อย หรือสถานการณ์ที่หลากหลาย

ถ้าคุณเป็นสายลุยที่อยากได้ฟิล์มที่ถ่ายได้ทุกสถานการณ์ Kodak Ultramax 400 คือตัวเลือกที่ต้องมีติดกระเป๋า ด้วย ISO 400 ทำให้ฟิล์มตัวนี้ไวแสงสูง ถ่ายในที่แสงน้อยอย่างในร่ม ร้านกาแฟ หรือตอนเย็นๆ ก็ยังได้ภาพที่คมชัด สีสันสดใส ไม่ดร็อป โทนสีของ Ultramax จะออกแนวสมจริง ไม่หวานหรืออุ่นเกินไป ทำให้เหมาะกับการถ่ายทั้งวิวทิวทัศน์และบุคคล ไม่ว่าจะเป็นทริปเที่ยวป่า ถ่ายสตรีท หรือถ่ายเพื่อนตอนไปแฮงค์เอาท์ ตัวนี้เอาอยู่หมด

ทำไมต้องเลือก?
อเนกประสงค์สุดๆ: ถ่ายได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ไม่ต้องกังวลเรื่องแสง
สีสันสมจริง: ให้สีที่ดูเป็นธรรมชาติ คมชัด ไม่เพี้ยน
เหมาะกับทุกสไตล์: ถ่ายวิว ถ่ายคน ถ่ายสแนปช็อต ตัวนี้รอดทุกงาน
ทนทาน: คุณภาพฟิล์มดีเยี่ยม ถ่ายในสภาพแสงยากๆ ก็ยังให้ผลลัพธ์ดี

Tips : Ultramax 400 เหมาะมากถ้าคุณจะไปทริปที่สภาพแสงเปลี่ยนบ่อย เช่น เที่ยวเมืองที่มีทั้งแดดจัดและในร่ม ลองใช้กับกล้องที่มีเลนส์ไวแสงหน่อย ภาพจะออกมาสวยคมแบบสุดปัง ถ้าถ่ายในที่มืด อาจจะลองปรับชัตเตอร์ให้ช้าลงนิดนึง หรือใช้ขาตั้งกล้องช่วยก็ได้

ทั้ง Kodak Color Plus 200, Kodak Gold 200, และ Kodak Ultramax 400 เป็นฟิล์มใหม่ คุณภาพสูง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ช่างภาพทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่อยากลองเล่นฟิล์มครั้งแรก หรือช่างภาพมือโปรที่มองหาฟิล์มที่ไว้ใจได้ ฟิล์ม Kodak เหล่านี้ตอบโจทย์แน่นอน! แต่ละตัวมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน

Color Plus 200 เน้นความคุ้มค่า ถ่ายง่าย สีสันสดใส
Gold 200 เน้นโทนวินเทจ อุ่นๆ เหมาะกับถ่าย portrait และวิว
Ultramax 400 เน้นความยืดหยุ่น ถ่ายได้ทุกสภาพแสง

ทั้งสามรุ่นนี้เป็นฟิล์ม 35mm ที่ใช้งานง่าย ใส่ได้กับกล้อง analogue ทุกแบบ และที่สำคัญคือให้ผลลัพธ์ที่สวยงามแบบที่ดิจิทัลทำไม่ได้

ถ้าถามว่า Kodak ตัวไหนเหมาะกับคุณ? มันขึ้นอยู่กับสไตล์ของคุณเลย ถ้าอยากได้ฟิล์มถูกและดี Color Plus 200 คือตัวเริ่มต้นที่ไม่ผิดหวัง ถ้าชอบโทนวินเทจ อบอุ่น Gold 200 จะเป็นรักแท้ของคุณ แต่ถ้าอยากได้ฟิล์มที่ถ่ายได้ทุกสถานการณ์ Ultramax 400 คือตัวจบ ฟิล์ม Kodak ทั้ง 3 รุ่นนี้คือตำนานที่ยังมีลมหายใจ สาย analogue ต้องมีติดไว้สักม้วนสองม้วน

ฟิล์มโกดัก 3 รุ่นยอดฮิตตลอดการ Kodak color plus 200 / Kodak gold 200 / Kodak Ultramax 400^{ร้านแนะนำ}

Kodak Vision3 5207 250D ฟิล์มหนัง ISO 50 (Daylight) ฟิล์ม 35mm ที่ถูกม้วนใหม่ให้ใช้กับกล้องถ่ายรูปได้ แถมยังมี DX-Code 50 และให้ภาพถึง 30 รูป ถึงจะเป็นฟิล์มหมดอายุ (ปี 2012) แต่บอกเลยว่าตัวนี้คือของดีที่สาย analogue และคนรักโทนภาพยนตร์ต้องกรี๊ด

Kodak Vision3 5207 250D – ฟิล์มหนังที่ให้ฟีลภาพยนตร์ตัวจริง

คุณสมบัติ
ประเภทฟิล์ม: ฟิล์มสี Negative 35mm (ม้วนใหม่จากฟิล์มหนัง 400ft reel)
ISO: 50 (ไวแสงต่ำ เหมาะกับแสง Daylight)
จำนวนภาพ: 30 ภาพ (30 exposures)
DX-Code: มี DX-Code ISO 50 (ใช้กับกล้องคอมแพคที่มีระบบอ่าน DX-Code ได้เลย)
กระบวนการล้าง: ECN-2 (แนะนำ) หรือ C-41 (เข้ากันได้)
สถานะ: ฟิล์มหมดอายุ (ผลิตปี 2012) ม้วนใหม่ในตลับรีไซเคิล
เหมาะกับ: ถ่ายในแสงแดดจัด, ถ่ายวิวทิวทัศน์, ถ่าย portrait, หรือคนที่อยากได้โทนภาพยนตร์

Kodak Vision3 5207 250D ไม่ใช่ฟิล์มถ่ายรูปธรรมดาๆ นี่คือฟิล์มที่ถูกออกแบบมาสำหรับถ่ายภาพยนตร์ในวงการ Hollywood เลย ตัวนี้ถูกม้วนใหม่จากฟิล์มหนังขนาด 400 ฟุตลงในตลับ 35mm เพื่อให้เราเอามาใช้กับกล้องถ่ายรูปทั่วไปได้ แถมยังมี DX-Code ISO 50 ทำให้กล้องคอมแพคหรือกล้อง SLR ที่อ่าน DX-Code ได้ตั้งค่า ISO อัตโนมัติ สะดวกสุดๆ

ฟิล์มตัวนี้มี ISO 50 ซึ่งเป็นไวแสงต่ำ หมายความว่ามันเหมาะสุดๆ กับการถ่ายในแสงแดดจัดๆ หรือสภาพแสงธรรมชาติที่สว่าง เช่น ถ่ายวิวทะเล ภูเขา หรือถ่าย portrait ตอนแดดเป๊ะๆ ภาพที่ได้จะให้โทนสีที่สมจริง คมชัด และมีคาแรกเตอร์แบบภาพยนตร์แท้ๆ! เพราะเป็นฟิล์ม Vision3 ที่ใช้ในกองถ่ายหนังใหญ่ๆ โทนสีจะออกแนว cinematic มีความนุ่มนวล คอนทราสต์กำลังดี และ grain (เกรน) ที่ละเอียดมากกก

จุดเด่นพิเศษของฟิล์มหมดอายุ (ปี 2012)

ถึงฟิล์มตัวนี้จะหมดอายุตั้งแต่ปี 2012 แต่บอกเลยว่านั่นคือเสน่ห์ ฟิล์มหมดอายุจะให้โทนสีที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนฟิล์มใหม่ๆ อาจจะมีสีเพี้ยนเล็กๆ หรือคอนทราสต์ที่ดูวินเทจหน่อยๆ ซึ่งสาย analogue ที่ชอบความย้อนยุคต้องหลงรักแน่นอน แต่ถ้าเก็บรักษาดี (เช่น เก็บในที่เย็น) คุณภาพของฟิล์มก็ยังดีเยี่ยมอยู่

ทำไมต้องเลือก Kodak Vision3 250D?

→ โทนภาพยนตร์แท้ๆ: ได้ฟีลภาพเหมือนหนัง Hollywood สีสันสมจริง เกรนละเอียด และโทน cinematic ที่หาไม่ได้จากฟิล์มทั่วไป

→  เหมาะกับแสง Daylight: ถ่ายในแสงแดดจัด ภาพจะออกมาสวยคม สีสันสดใส เหมาะกับวิวทิวทัศน์หรือ portrait
→  DX-Code สะดวกสุดๆ: กล้องที่อ่าน DX-Code ได้จะตั้งค่า ISO 50 อัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งปรับเอง
→  ม้วนใหม่คุณภาพดี: ม้วนจากฟิล์มหนัง 400ft reel ลงในตลับรีไซเคิล คุณภาพยังคงมาตรฐาน Kodak
→  ล้างได้หลากหลาย: รองรับทั้งการล้างแบบ ECN-2 (กระบวนการสำหรับฟิล์มหนัง) หรือ C-41 (กระบวนการล้างฟิล์มสีทั่วไป) ทำให้หาห้องล้างได้ง่าย
→  ฟิล์มหมดอายุ = เสน่ห์พิเศษ: ให้โทนวินเทจที่ไม่เหมือนใคร เหมาะกับคนที่ชอบทดลองอะไรใหม่ๆ

ข้อควรรู้ก่อนถ่าย
แสงต้องเป๊ะ: ด้วย ISO 50 ฟิล์มตัวนี้ไวแสงต่ำมาก ต้องถ่ายในที่แสงดีๆ เช่น กลางแจ้งตอนแดดจัด หรือใช้แฟลชช่วยถ้าถ่ายในร่ม

ตั้งชัตเตอร์สปีดให้เหมาะ: ใช้ชัตเตอร์สปีดที่เร็ว เช่น 1/100 หรือ 1/250 เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด ถ้าใช้กล้อง manual อย่าลืมเช็คแสงดีๆ นะ

การล้างฟิล์ม: แนะนำให้ล้างแบบ ECN-2 เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด (ต้องคาร์บอนออกก่อน) แต่ถ้าห้องล้างใกล้บ้านไม่มี ECN-2 ก็ล้างแบบ C-41 ได้เลย ผลลัพธ์ยังสวยอยู่

เก็บรักษา: ถ้าไม่อยากให้ฟิล์มหมดอายุเสียไปมากกว่านี้ เก็บในตู้เย็นนะทุกคน จะช่วยยืดอายุฟิล์มได้

Tips : อยากให้ภาพจาก Kodak Vision3 250D ออกมาปังสุดๆ ลองถ่ายในช่วง Golden Hour (ตอนเช้าตรู่หรือก่อนพระอาทิตย์ตก) เพื่อให้ได้แสงนุ่มๆ ที่เข้ากับโทน cinematic ของฟิล์ม ถ้าจะถ่าย portrait ลองใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง (เช่น f/1.8 หรือ f/2.8) จะได้โบเก้สวยๆ และโทนสีผิวที่เนียนละมุน! ถ้าถ่ายในที่แสงน้อย อาจต้องพึ่งขาตั้งกล้องหรือแฟลชช่วยหน่อยนะ

ทำไม Kodak Vision3 250D ถึงน่าลอง?

ฟิล์ม Kodak Vision3 5207 250D ตัวนี้เป็นฟิล์มที่พาคุณย้อนไปสัมผัสกลิ่นอายของภาพยนตร์ตัวจริง ด้วยความที่เป็นฟิล์มหนังที่ถูกม้วนใหม่ให้ใช้กับกล้อง 35mm ได้ ทำให้มันเหมาะกับคนที่อยากได้ภาพที่มีคาแรกเตอร์ไม่เหมือนใคร สีสันสมจริง เกรนละเอียด และโทนที่ดูแพงแบบภาพยนตร์ แถมยังเป็นฟิล์มหมดอายุที่ให้ฟีลวินเทจแบบไม่ต้องแต่งภาพเยอะ สาย analogue ที่ชอบอะไรแปลกใหม่ต้องลองสักม้วน

เหมาะกับใคร?
ช่างภาพที่อยากได้โทนภาพยนตร์ในงานถ่ายรูป
คนที่ชอบฟิล์มหมดอายุและอยากทดลองโทนสีที่ไม่เหมือนใคร
สายถ่ายวิวหรือ portrait ที่เน้นถ่ายในแสงธรรมชาติ
คนที่ใช้กล้องคอมแพคที่มีระบบ DX-Code และอยากได้ฟิล์มที่ตั้งค่าง่าย

ข้อควรระวัง
ฟิล์มตัวนี้ไวแสงต่ำ (ISO 50) ดังนั้นถ้าถ่ายในที่แสงน้อยอาจต้องใช้แฟลชหรือขาตั้งกล้อง
ต้องเลือกห้องล้างที่เข้าใจฟิล์มหนัง (ECN-2) หรือถ้าไม่มี C-41 ก็พอได้ แต่สีอาจจะแตกต่างเล็กน้อย
เนื่องจากเป็นฟิล์มหมดอายุ ผลลัพธ์อาจจะมีความไม่แน่นอนนิดๆ ซึ่งนั่นคือเสน่ห์ของมัน

Kodak Vision3 5207 250D คือฟิล์มที่สาย cinematic ต้องมีติดกระเป๋า ด้วย ISO 50 ที่เหมาะกับแสง Daylight โทนสีสวยสมจริงแบบภาพยนตร์ และเกรนละเอียดที่ให้ฟีลระดับ Hollywood แถมยังเป็นฟิล์มหมดอายุที่เพิ่มความวินเทจเข้าไปอีก ไม่ว่าคุณจะถ่ายวิวทิวทัศน์ ถ่าย portrait หรืออยากได้ภาพที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร ฟิล์มตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอน

ฟิลม์หนัง ISO 50(Daylight), 30 exp(รูป), KODAK V3 5207 250D(หมดอายุ), Film 35mm(ฟิล์ม ปี 2012), มี DX-Code 50^{ร้านแนะนำ}

ฟิล์มสุดคลาสสิกที่สาย analogue ต้องรู้จัก นี่คือ Kodak Gold 200 ฟิล์มสี 35mm ที่ถ่ายได้ 36 ภาพ แถมมาในแพ็คเกจใหม่เอี่ยม ฟิล์มตัวนี้คือตัวท็อปที่ครองใจช่างภาพทั่วโลก ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือโปรก็ต้องมีติดกระเป๋า 

Kodak Gold 200 – ฟิล์มสีโทนอุ่น คลาสสิกทุกยุคสมัย

คุณสมบัติ
ประเภทฟิล์ม: ฟิล์มสี Negative 35mm
ISO: 200 (ไวแสงปานกลาง เหมาะกับแสงธรรมชาติ)
จำนวนภาพ: 36 ภาพ (ถ่ายได้เยอะ จุใจ!)
สถานะ: ฟิล์มใหม่ (New Packet)
เหมาะกับ: ถ่ายวิวทิวทัศน์, ถ่ายบุคคล, ถ่ายในที่โล่งแจ้ง หรือสถานการณ์ทั่วไป
กระบวนการล้าง: C-41 (ล้างได้ที่ห้องล้างฟิล์มทั่วไป)

Kodak Gold 200 คือฟิล์มที่ให้โทนสีอุ่นๆ อมเหลืองนิดๆ สไตล์วินเทจที่ทุกคนหลงรัก ฟิล์มตัวนี้ถูกออกแบบมาให้ถ่ายง่าย เหมาะกับทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะการถ่ายในแสงแดดจัดๆ หรือแสงธรรมชาติ ภาพที่ได้จะมีสีสันที่สดใส คมชัด และมีคอนทราสต์ที่กำลังดี ทำให้ภาพดูมีมิติ ไม่แบน โทนสีของ Gold 200 จะออกแนวอบอุ่น คลาสสิก เหมือนภาพถ่ายสมัยก่อน ทำให้มันเหมาะสุดๆ สำหรับถ่ายวิวทิวทัศน์อย่างทะเล ภูเขา หรือถนนในเมืองตอนเย็นๆ รวมถึงถ่าย portrait ที่ให้สีผิวสวย เนียนละมุน ดูเป็นธรรมชาติ

ด้วย ISO 200 ฟิล์มตัวนี้มีความไวแสงที่สมดุล ถ่ายในแสงแดดได้ปัง หรือถ้าเจอแสงน้อยนิดๆ ก็ยังเอาอยู่ (แต่อาจต้องพึ่งแฟลชหรือแสงไฟช่วยหน่อย) และที่สำคัญคือมันถ่ายได้ถึง 36 ภาพ ถ่ายได้เยอะแบบนี้ คุ้มสุดๆ ไม่ว่าจะไปทริปสั้นหรือยาวก็เก็บโมเมนต์ได้ครบ! แถมเป็นฟิล์มใหม่  คุณภาพยังสดใหม่ สีสันเป๊ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องฟิล์มเสื่อมเลย

ทำไมต้องเลือก Kodak Gold 200

→ โทนสีวินเทจสุดคลาสสิก: ให้สีอุ่นๆ อมเหลืองที่ดูย้อนยุค เหมาะกับคนที่ชอบฟีล retro
→ ถ่าย portrait สวยมาก: สีผิวออกมาเนียน อบอุ่น ถ่ายเพื่อนหรือนางแบบคือปัง!
→ เหมาะกับแสงแดด: ถ่ายในที่โล่งแจ้ง ภาพจะคมชัด สีสันจัดจ้าน โดยเฉพาะในแสงธรรมชาติ
→ ถ่ายง่าย อเนกประสงค์: ใช้ได้กับกล้อง 35mm ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นกล้องคอมแพค point-and-shoot หรือกล้อง SLR
→ จำนวนภาพเยอะ: 36 ภาพ ถ่ายได้จุใจ เหมาะกับทุกทริป
→ ล้างง่าย: ใช้กระบวนการ C-41 หาห้องล้างได้ทั่วไป ไม่ยุ่งยาก
→ ฟิล์มใหม่ คุณภาพดี: ผลิตใหม่ รับประกันสีสันสดใส คุณภาพเยี่ยม

ข้อควรรู้ก่อนถ่าย

→ แสงคือกุญแจสำคัญ: ISO 200 เหมาะที่สุดในแสงแดดหรือแสงธรรมชาติ ถ้าถ่ายในร่มอาจต้องใช้แฟลชหรือแสงไฟช่วยเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน
→ ตั้งค่ากล้องให้เป๊ะ: ถ้าใช้กล้อง manual แนะนำให้ใช้ชัตเตอร์สปีดประมาณ 1/125 หรือ 1/250 ในแสงแดดปกติ และปรับรูรับแสงให้เหมาะสม (เช่น f/8 หรือ f/11)
→ เก็บรักษาดีๆ: ถึงจะเป็นฟิล์มใหม่ แต่ถ้ายังไม่ใช้ แนะนำเก็บในตู้เย็นเพื่อรักษาคุณภาพให้สดใหม่นานๆ
→ เหมาะกับทุกกล้อง: ไม่ว่าจะเป็นกล้องคอมแพคอย่าง Olympus MJU หรือกล้องโปรอย่าง Canon AE-1 ตัวนี้ก็รอดหมด

Tips : อยากให้ภาพจาก Kodak Gold 200 ออกมาสุดปัง ลองถ่ายในช่วง Golden Hour (ตอนเช้าตรู่หรือก่อนพระอาทิตย์ตก) จะได้แสงนุ่มๆ ที่เข้ากับโทนอุ่นของฟิล์ม ภาพจะออกมาละมุนแบบสุดๆ ถ้าถ่าย portrait ลองใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง (เช่น f/2.8 หรือ f/4) เพื่อให้ได้โบเก้สวยๆ และสีผิวที่เนียน ถ้าจะถ่ายในร่ม อย่าลืมพกแฟลชไปด้วย หรือถ่ายใกล้หน้าต่างที่มีแสงธรรมชาติเยอะๆ รับรองภาพสวยแน่นอน

ทำไม Kodak Gold 200 ถึงเป็นตัวนิยม

Kodak Gold 200 คือฟิล์มที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่อยากได้ภาพสวยๆ ในสไตล์ analogue โดยไม่ต้องจ่ายแพง ด้วยโทนสีที่อบอุ่น คลาสสิก และความสามารถในการถ่ายได้หลากหลายสถานการณ์ ทำให้มันเป็นฟิล์มที่ครองใจทั้งมือใหม่และมือโปร ไม่ว่าคุณจะถ่ายวิวทิวทัศน์สวยๆ อย่างทุ่งหญ้า ทะเล หรือเมืองเก่า หรือจะถ่าย portrait เพื่อนฝูงในทริป ฟิล์มตัวนี้ก็ให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม มีเสน่ห์แบบที่กล้องดิจิทัลเลียนแบบไม่ได้

ที่สำคัญ ตัวนี้ถ่ายได้ 36 ภาพ คุ้มสุดๆ สำหรับคนที่ชอบถ่ายเยอะๆ และด้วยความที่เป็นฟิล์มใหม่ คุณภาพสีและความคมชัดยังคงเป๊ะเหมือนเพิ่งออกจากโรงงาน! แถมยังล้างง่ายด้วยกระบวนการ C-41 หาห้องล้างได้ทั่วไป ไม่ต้องกังวลเลย

เหมาะกับใคร
มือใหม่ที่อยากเริ่มเล่นฟิล์มและมองหาฟิล์มที่ถ่ายง่าย ราคาไม่แรง
ช่างภาพที่ชอบโทนสีวินเทจ อุ่นๆ สไตล์ย้อนยุค
คนที่ชอบถ่ายวิวทิวทัศน์หรือ portrait ในแสงธรรมชาติ
คนที่อยากได้ฟิล์มที่ถ่ายได้เยอะ (36 ภาพ) และคุณภาพเชื่อถือได้

ข้อควรระวัง
ฟิล์ม ISO 200 อาจจะไม่เหมาะกับการถ่ายในที่แสงน้อยมากๆ ถ้าจะถ่ายในร่ม ต้องมีแสงช่วย หรือใช้กล้องที่มีเลนส์ไวแสง
ถ้าอยากได้สีที่เป๊ะ แนะนำให้ถ่ายในแสงแดดหรือแสงธรรมชาติที่สว่างพอ

Kodak Gold 200 (36 ภาพ, New Packet) คือฟิล์มที่สาย analogue ต้องลอง ด้วยโทนสีอุ่นๆ สไตล์วินเทจ ความคมชัดที่สวยงาม และความสามารถในการถ่ายได้ทุกสถานการณ์ในแสงธรรมชาติ ฟิล์มตัวนี้คือตัวเลือกที่ทั้งคุ้มค่าและให้ผลลัพธ์ปังสุดๆ ไม่ว่าคุณจะไปถ่ายวิวสวยๆ ที่ทะเล ถ่าย portrait เพื่อนตอนไปคาเฟ่ หรือเก็บโมเมนต์ในทริป ฟิล์มตัวนี้ก็พร้อมให้คุณได้ภาพที่มีเสน่ห์แบบ analogue แท้ๆ

ฟิล์ม Kodak Gold 200(36ภาพ) New Packet^{ร้านแนะนำ}

ฟิล์มระดับตำนานที่สายถ่ายรูป analogue นี่คือ Kodak Portra 160 ฟิล์มสี 35mm ที่ถ่ายได้ 36 ภาพ และเป็นที่รักของช่างภาพทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร ฟิล์มตัวนี้คือราชินีแห่งการถ่าย portrait และวิวทิวทัศน์ มาพร้อมตัวเลือกทั้งแบบม้วนเดี่ยว (ไม่มีกล่องกระดาษ) และแบบกล่อง 5 ม้วน (มีกล่องกระดาษ)

Kodak Portra 160 – ราชินีแห่งฟิล์มสีที่ให้โทนเนียนละมุน

คุณสมบัติ
ประเภทฟิล์ม: ฟิล์มสี Negative 35mm
ISO: 160 (ไวแสงปานกลาง เหมาะกับแสงธรรมชาติ)
จำนวนภาพ: 36 ภาพ (ถ่ายได้เยอะ จุใจ!)
สถานะ: ฟิล์มใหม่

ตัวเลือกจำหน่าย
แบบเดี่ยว: 1 ม้วนในกล่องพลาสติก (ไม่มีกล่องกระดาษ)
แบบกล่อง: 1 กล่องมี 5 ม้วน (พร้อมกล่องกระดาษ)

เหมาะกับ: ถ่าย portrait, ถ่ายวิวทิวทัศน์, ถ่ายในแสงธรรมชาติ หรือสถานการณ์ที่ต้องการโทนสีเนียนสวย
กระบวนการล้าง: C-41 (ล้างได้ที่ห้องล้างฟิล์มทั่วไป)
การใช้งาน: ใช้ได้กับกล้อง 35mm ทุกแบบ รวมถึงกล้อง point-and-shoot (PNS)

Kodak Portra 160 คือฟิล์มที่ช่างภาพทั่วโลกยกให้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับการถ่าย portrait และงานที่ต้องการความละเอียดสูง ด้วย ISO 160 ฟิล์มตัวนี้ให้ความไวแสงที่สมดุล เหมาะสุดๆ กับการถ่ายในแสงธรรมชาติ เช่น วันแดดสวยๆ หรือแสงนุ่มๆ ในช่วงเช้าและเย็น ภาพที่ได้จะมีโทนสีที่เนียนละมุน สีผิวสวยเป็นธรรมชาติ และเกรน (grain) ที่ละเอียดมากกก ทำให้ภาพดูสะอาด คมชัด และมีมิติแบบสุดๆ

จุดเด่นที่ทำให้ Portra 160 โดดเด่นคือความสามารถในการจับสีผิวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะถ่ายคนผิวโทนไหน ภาพก็ออกมาดูดี เนียนละมุน ไม่เพี้ยน นอกจากนี้ โทนสีของฟิล์มจะออกแนวอุ่นนิดๆ แต่สมจริง ไม่จัดจ้านเกินไป ทำให้เหมาะกับทั้งถ่าย portrait, วิวทิวทัศน์ หรือแม้แต่ภาพไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ฟิล์มตัวนี้ยังให้คอนทราสต์ที่กำลังดีและ dynamic range กว้าง ทำให้ถ่ายในสภาพแสงที่ท้าทาย (เช่น แสงแดดจัดที่มีเงา) ก็ยังได้ภาพที่สวย

ตัวเลือกการซื้อ

ม้วนเดี่ยว (ไม่มีกล่องกระดาษ): เหมาะกับคนที่อยากลองสักม้วน หรือซื้อไปใช้ทีละนิด มาในกล่องพลาสติก ป้องกันฟิล์มได้ดี

กล่อง 5 ม้วน (มีกล่องกระดาษ): คุ้มกว่าสำหรับคนที่ถ่ายเยอะ หรืออยากสต็อกไว้ใช้ยาวๆ แถมกล่องกระดาษช่วยให้เก็บง่ายและดูดี

ทำไมต้องเลือก Kodak Portra 160

→ สีผิวสวยสุดยอด: ถ่าย portrait แล้วสีผิวออกมาเนียน ละมุน เป็นธรรมชาติ เหมาะกับถ่ายนางแบบ เพื่อน หรือครอบครัว
→ โทนสีสมจริง: สีสันไม่จัดจ้านเกินไป แต่ยังคงสดใสและมีมิติ เหมาะกับทุกสไตล์การถ่าย
→ เกรนละเอียด: ภาพดูสะอาด คมชัด แม้จะซูมเข้าไปใกล้ๆ
→ ถ่ายง่ายในแสงธรรมชาติ: ISO 160 เหมาะกับแสงแดดหรือแสงนุ่มๆ ถ่ายในที่โล่งแจ้งคือปัง
→ จำนวนภาพเยอะ: 36 ภาพ ถ่ายได้จุใจ เหมาะกับทุกทริปหรือโปรเจกต์ถ่ายรูป
→ ล้างง่าย: ใช้กระบวนการ C-41 หาห้องล้างได้ทั่วไป ไม่ต้องกังวล
→ คุณภาพฟิล์มใหม่: หมดอายุ 01/2026 รับประกันความสดใหม่ สีสันเป๊ะ คุณภาพเชื่อถือได้
→ ใช้ได้กับกล้อง PNS: กล้อง point-and-shoot หรือกล้องคอมแพคก็ใช้ได้ ง่ายสำหรับมือใหม่

ข้อควรรู้ก่อนถ่าย

แสงคือสิ่งสำคัญ: ISO 160 เหมาะกับแสงธรรมชาติหรือแสงแดด ถ้าถ่ายในร่มอาจต้องใช้แฟลชหรือแสงไฟช่วยเพื่อให้ภาพชัดเจน

ตั้งค่ากล้องให้เหมาะ: ถ้าใช้กล้อง manual แนะนำชัตเตอร์สปีด 1/125 หรือ 1/250 ในแสงแดดปกติ และปรับรูรับแสงให้เหมาะ (เช่น f/8 หรือ f/11)

การเก็บรักษา

เก็บในตู้เย็น: แนะนำให้เก็บฟิล์มในช่องผักหรือตู้เย็นพิเศษที่อุณหภูมิต่ำกว่า 10°C และความชื้นประมาณ 50% เพื่อรักษาคุณภาพฟิล์มให้สดใหม่นานๆ

ถ้าเก็บในช่องแช่แข็ง: ต้องนำออกมาละลายที่อุณหภูมิห้อง 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนถ่าย เพื่อป้องกันความชื้นสะสม

เหมาะกับทุกกล้อง 35mm: ไม่ว่าจะเป็นกล้องคอมแพคอย่าง Olympus MJU, Lomo LC-A หรือกล้องโปรอย่าง Nikon F3, Canon AE-1 ตัวนี้ก็เอาอยู่หมด

Tips : อยากให้ภาพจาก Kodak Portra 160 ออกมาสุดปัง ลองถ่ายในช่วง Golden Hour (เช้าตรู่หรือก่อนพระอาทิตย์ตก) เพื่อให้ได้แสงนุ่มๆ ที่เข้ากับโทนเนียนละมุนของฟิล์ม ถ้าถ่าย portrait ลองใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง (เช่น f/1.8 หรือ f/2.8) เพื่อให้ได้โบเก้สวยๆ และสีผิวที่เนียนสุดๆ ถ้าถ่ายในร่ม ใช้แฟลชหรือถ่ายใกล้หน้าต่างที่มีแสงธรรมชาติเยอะๆ รับรองภาพออกมาสวยแบบตะโกน ถ้าจะถ่ายวิว ลองหามุมที่มีแสงและเงาเยอะๆ ฟิล์มตัวนี้จะเก็บรายละเอียดได้ดีมาก

ทำไม Kodak Portra 160 ถึงเป็นที่รักของช่างภาพ

Kodak Portra 160 คือฟิล์มที่ถูกยกย่องว่าเป็น “ราชินีแห่ง portrait” เพราะความสามารถในการถ่ายภาพบุคคลที่ให้สีผิวสวยเนียนเป็นธรรมชาติ และโทนสีที่สมจริงแบบสุดๆ! ไม่ว่าจะถ่ายนางแบบ ถ่ายเพื่อน หรือถ่ายครอบครัว ฟิล์มตัวนี้ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดูแพง มีคุณภาพระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ยังเหมาะกับการถ่ายวิวทิวทัศน์ งานแต่งงาน หรือภาพไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความละเอียดและสีสันที่เป็นธรรมชาติ ด้วยเกรนที่ละเอียดและ dynamic range ที่กว้าง ฟิล์มตัวนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ช่างภาพมือโปรเลือกใช้ในงานสำคัญๆ

ที่สำคัญ ฟิล์มตัวนี้เป็นฟิล์มใหม่ คุณภาพสีและความคมชัดยังคงเป๊ะเหมือนออกจากโรงงาน ถ่ายได้ 36 ภาพ คุ้มสุดๆ สำหรับคนที่ชอบถ่ายเยอะๆ และล้างง่ายด้วยกระบวนการ C-41 หาห้องล้างได้ทั่วไป ไม่ว่าคุณจะใช้กล้อง point-and-shoot หรือกล้องโปร ฟิล์มตัวนี้ก็พร้อมให้คุณได้ภาพที่มีเสน่ห์แบบ analogue แท้ๆ

เหมาะกับใคร
ช่างภาพที่เน้นถ่าย portrait และต้องการสีผิวที่สวยเป็นธรรมชาติ
คนที่ชอบถ่ายวิวทิวทัศน์ในแสงธรรมชาติและอยากได้ภาพที่คมชัด สีสมจริง
มือใหม่ที่ใช้กล้อง point-and-shoot และอยากได้ฟิล์มคุณภาพสูง
คนที่ถ่ายเยอะและอยากได้ฟิล์มที่ถ่ายได้ 36 ภาพในราคาคุ้มค่า

ข้อควรระวัง
ISO 160 เหมาะกับแสงธรรมชาติ ถ้าถ่ายในที่แสงน้อยมากๆ อาจต้องใช้แฟลชหรือเลนส์ไวแสง
เก็บฟิล์มให้ดีตามคำแนะนำ (ตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง) เพื่อรักษาคุณภาพให้ยาวนาน
ถ้าซื้อแบบม้วนเดี่ยว (ไม่มีกล่องกระดาษ) ระวังอย่าให้กล่องพลาสติกเสียหาย เพื่อป้องกันฟิล์มจากแสงและความชื้น

Kodak Portra 160 (36 ภาพ, 35mm) คือฟิล์มที่สาย analogue ต้องมี ด้วยโทนสีเนียนละมุน สีผิวสวยเป็นธรรมชาติ เกรนละเอียด และความสามารถในการถ่ายได้ทั้ง portrait และวิวทิวทัศน์ ฟิล์มตัวนี้คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่อยากได้ภาพคุณภาพสูงในสไตล์ analogue ไม่ว่าจะซื้อแบบม้วนเดี่ยวหรือกล่อง 5 ม้วน ฟิล์มใหม่ ตัวนี้รับประกันความปัง ถ่ายง่าย ล้างง่าย และเหมาะกับทุกกล้อง 35mm รวมถึงกล้อง point-and-shoot

ฟิล์ม Kodak Portra 160 36 ฟิล์ม 35mm^{ร้านแนะนำ}

ฟิล์มสีสุดอเนกประสงค์ที่สาย analogue ต้องยกนิ้วให้ นี่คือ Kodak Ultramax 400 ฟิล์มเนกาทีฟสี 35mm ที่ถ่ายได้ 36 ภาพ และเป็นตัวเลือกสุดปังสำหรับคนที่อยากถ่ายรูปได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นฟิล์มหรือมือโปรที่ต้องการฟิล์มไว้ใจได้ ตัวนี้คือคำตอบ

Kodak Ultramax 400 – ฟิล์มสายลุย ถ่ายได้ทุกแสง ทุกสไตล์

คุณสมบัติ
ประเภทฟิล์ม: ฟิล์มสี Negative 135 (35mm)
ISO: 400 (ไวแสงสูง เหมาะกับทุกสภาพแสง)
จำนวนภาพ: 36 ภาพ (ถ่ายได้เยอะ จุใจ)
เหมาะกับ: ถ่ายภาพทั่วไป, ถ่ายในที่แสงน้อย, ถ่ายวิวทิวทัศน์, ถ่ายบุคคล, หรือถ่ายสแนปช็อต
การใช้งาน: ใช้ได้กับกล้องฟิล์ม 35mm ทุกประเภท รวมถึงกล้องทอย (toy camera) และกล้อง point-and-shoot
กระบวนการล้าง: C-41 (ล้างได้ที่ห้องล้างฟิล์มทั่วไป)
คุณสมบัติพิเศษ: พัฒนามายาวนาน ให้ภาพคมชัด สีสันสมจริง และทนทานในทุกสภาพแสง

Kodak Ultramax 400 คือฟิล์มที่เกิดมาเพื่อสายลุย ด้วย ISO 400 ที่มีความไวแสงสูง ทำให้ฟิล์มตัวนี้เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นสุดๆ ถ่ายได้ทั้งในแสงแดดจัดๆ หรือในที่แสงน้อยอย่างในร่ม ร้านกาแฟ หรือตอนเย็นที่แสงเริ่มอ่อน ภาพที่ได้จะยังคงคมชัด สีสันสดใส และสมจริง โทนสีของ Ultramax 400 จะออกแนวสมจริง ไม่หวานหรืออุ่นเกินไป ทำให้เหมาะกับการถ่ายทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นวิวทิวทัศน์อย่างป่าเขา ทะเล ถนนในเมือง หรือถ่าย portrait เพื่อนฝูงตอนไปแฮงค์เอาท์ ตัวนี้เอาอยู่หมด

ฟิล์มตัวนี้ถูกพัฒนามายาวนานโดย Kodak แบรนด์ระดับตำนานที่รู้ใจช่างภาพ ทำให้คุณภาพของ Ultramax 400 นั้นไว้ใจได้สุดๆ ภาพที่ได้จะมีเกรน (grain) ที่ละเอียดปานกลาง ให้ฟีล analogue แท้ๆ แต่ไม่รกจนเสียรายละเอียด คอนทราสต์และ dynamic range ก็ดีเยี่ยม ทำให้ถ่ายในสภาพแสงที่ท้าทาย (เช่น แสงแดดที่มีเงา หรือแสงในร่ม) ก็ยังได้ภาพที่สวยงาม แถมถ่ายได้ถึง 36 ภาพ คุ้มสุดๆ สำหรับคนที่ชอบถ่ายเยอะๆ ในทริปเดียว

ทำไมต้องเลือก Kodak Ultramax 400

→ อเนกประสงค์สุดๆ: ISO 400 ทำให้ถ่ายได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ไม่ต้องกังวลเรื่องแสง
→ สีสันสมจริง: ให้สีที่ดูเป็นธรรมชาติ คมชัด ไม่เพี้ยน เหมาะกับทุกสไตล์การถ่าย
→ เกรนสวยงาม: เกรนละเอียดปานกลาง ให้ฟีล analogue ที่มีเสน่ห์ ไม่รกจนเกินไป
→ ถ่ายได้ทุกสถานการณ์: ถ่ายวิว ถ่ายคน ถ่ายสแนปช็อต หรือถ่ายในที่แสงน้อย ตัวนี้รอดหมด
→ จำนวนภาพเยอะ: 36 ภาพต่อม้วน ถ่ายได้จุใจ เหมาะกับทุกทริปหรือโปรเจกต์
→ ใช้ได้กับกล้องหลากหลาย: กล้อง 35mm ทุกแบบ รวมถึงกล้องทอย (เช่น Lomo, Holga) หรือกล้อง point-and-shoot ก็ใช้ได้
→ ล้างง่าย: ใช้กระบวนการ C-41 หาห้องล้างได้ทั่วไป ไม่ยุ่งยาก
→ คุณภาพเชื่อถือได้: พัฒนาโดย Kodak แบรนด์ที่ช่างภาพทั่วโลกไว้วางใจ

ข้อควรรู้ก่อนถ่าย

👉 แสงหลากหลายไม่ใช่ปัญหา: ISO 400 ทำให้ฟิล์มตัวนี้ยืดหยุ่นมาก ถ่ายในแสงแดดจัดก็สวย ถ่ายในร่มหรือตอนเย็นก็เอาอยู่ แต่ถ้าแสงน้อยมากๆ อาจต้องใช้แฟลชหรือเลนส์ไวแสงช่วย

👉 ตั้งค่ากล้องให้เหมาะ: ถ้าใช้กล้อง manual แนะนำชัตเตอร์สปีด 1/125 หรือ 1/250 ในแสงแดดปกติ และปรับรูรับแสงตามสภาพแสง (เช่น f/8 ในแสงแดด หรือ f/4 ในที่ร่ม)

👉 เก็บรักษาฟิล์ม: ถึงจะเป็นฟิล์มใหม่ แนะนำให้เก็บในตู้เย็น (ช่องผัก, อุณหภูมิต่ำกว่า 10°C, ความชื้น 50%) เพื่อรักษาคุณภาพ ถ้าเก็บในช่องแช่แข็ง ต้องนำออกมาละลายที่อุณหภูมิห้อง 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนถ่าย

👉 เหมาะกับกล้องทอย: ถ้าใช้กับกล้องทอยอย่าง Lomo หรือ Holga อาจได้ฟีลภาพที่สนุกและมีคาแรกเตอร์มากขึ้น เพราะเกรนของฟิล์มจะเข้ากับสไตล์ lo-fi ได้ดี

Tips : อยากให้ภาพจาก Kodak Ultramax 400 ออกมาสุดปัง ลองถ่ายในช่วงบ่ายที่แสงแดดกำลังดี หรือถ้าจะถ่ายในร่ม ลองหามุมที่มีแสงจากหน้าต่างหรือใช้แฟลชเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด ถ้าถ่าย portrait ลองใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง (เช่น f/2.8 หรือ f/4) เพื่อให้ได้โบเก้สวยๆ และสีผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ถ้าจะถ่ายวิวหรือสตรีท ลองหามุมที่มีแสงและเงาเยอะๆ ฟิล์มตัวนี้จะเก็บรายละเอียดได้ดีมาก และถ้าใช้กล้องทอย ลองเล่นกับการตั้งค่าแบบไม่ต้องเป๊ะมาก จะได้ฟีลภาพที่สนุกและไม่เหมือนใคร

ทำไม Kodak Ultramax 400 ถึงเป็นตัวเลือกสุดคุ้ม

Kodak Ultramax 400 คือฟิล์มที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่อยากได้ฟิล์มที่ถ่ายง่าย คุณภาพดี และใช้งานได้หลากหลาย! ด้วย ISO 400 ที่ยืดหยุ่น ถ่ายได้ทั้งในแสงแดดจัดและที่แสงน้อย ทำให้มันเหมาะกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นทริปเที่ยวป่า ถ่ายสตรีทในเมือง หรือถ่ายเพื่อนตอนไปคาเฟ่ ภาพที่ได้จะคมชัด สีสันสมจริง และมีเกรนที่ให้ฟีล analogue สุดคลาสสิก แถมถ่ายได้ 36 ภาพ คุ้มสุดๆ สำหรับคนที่ชอบถ่ายเยอะๆ

ที่สำคัญ ฟิล์มตัวนี้ถูกพัฒนามายาวนานโดย Kodak ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพระดับโลก ใช้ได้กับกล้อง 35mm ทุกแบบ รวมถึงกล้องทอยที่ให้ฟีลสนุกๆ และล้างง่ายด้วยกระบวนการ C-41 หาห้องล้างได้ทั่วไป ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นฟิล์ม หรือช่างภาพที่อยากได้ฟิล์มที่ไว้ใจได้ ตัวนี้คือคำตอบที่ลงตัวสุดๆ

เหมาะกับใคร
มือใหม่ที่อยากได้ฟิล์มที่ถ่ายง่ายและให้ผลลัพธ์สวยในทุกสภาพแสง
ช่างภาพที่ชอบถ่ายภาพทั่วไป วิวทิวทัศน์ หรือ portrait ในสไตล์ analogue
คนที่ใช้กล้องทอยหรือกล้อง point-and-shoot และอยากได้ฟิล์มที่ให้ภาพคมชัด สีสวย
คนที่ถ่ายเยอะและอยากได้ฟิล์มที่ถ่ายได้ 36 ภาพในราคาคุ้มค่า

ข้อควรระวัง
ISO 400 เหมาะกับหลายสภาพแสง แต่ถ้าถ่ายในที่มืดมากๆ อาจต้องใช้แฟลชหรือเลนส์ไวแสงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เก็บฟิล์มให้ดีตามคำแนะนำ (ตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง) เพื่อรักษาคุณภาพให้ยาวนาน
ถ้าใช้กล้องทอย ผลลัพธ์อาจจะมีความ lo-fi มากขึ้น ซึ่งเป็นเสน่ห์ของกล้องประเภทนี้

Kodak Ultramax 400 (36 ภาพ, 35mm) คือฟิล์มที่สาย analogue ต้องมีติดกระเป๋า ด้วยความไวแสง ISO 400 ที่ถ่ายได้ทุกสภาพแสง สีสันสมจริง เกรนสวยงาม และความสามารถในการถ่ายได้ทั้งวิว บุคคล หรือสแนปช็อต ฟิล์มตัวนี้คือตัวเลือกที่ทั้งยืดหยุ่นและคุณภาพสูง ไม่ว่าจะใช้กับกล้อง 35mm ทั่วไปหรือกล้องทอย ตัวนี้ก็ให้ผลลัพธ์ที่ปังทุกสถานการณ์ ถ่ายง่าย ล้างง่าย และถ่ายได้เยอะถึง 36 ภาพ คุ้มสุดๆ

Kodak ULTRAMAX 400 Negative Film 135^{ร้านแนะนำ}