ร่วมค้นหาคำตอบชวนยิ้มทั้งน้ำตาจากปิ่นโตที่เดินทางจนถึงมือผู้รับ พวกเขาจะจำได้หรือไม่ว่าปิ่นโตนี้ส่งมาจากใคร และส่งมาเพื่ออะไร ทันทีเมื่อปิ่นโตถูกเปิดออก…แล้วคุณจะเข้าใจ
ชอบที่แม่อ้อยพูดว่า “เพราะฉะนั้น แม่จะสอนหนูทำเมนูอาหารง่ายๆ ที่หนูชอบกินมาตั้งแต่เด็ก เผื่อวันนึงข้างหน้าที่แม่ไม่อยู่แล้ว อาหารนี้จะเป็นตัวแทนของแม่อยู่ดูแลหนูตลอดไป”
โฆษณา “เมื่อปิ่นโตออกเดินทาง Flavour of Home” โดยคนอร์ (Knorr) เป็นแคมเปญโฆษณาที่ออกอากาศในประเทศไทยเมื่อปี 2015 ซึ่งได้รับความนิยมและกลายเป็นไวรัล เนื่องจากเนื้อหาที่กินใจและสะท้อนความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะความรักของแม่ที่มีต่อลูก
โฆษณานี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญใหญ่ที่ใช้ชื่อว่า “อาหารคือหลักฐานของความรัก” (Food is the Evidence of Love) ที่ต้องการตอกย้ำภาพลักษณ์ของคนอร์ในฐานะแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างครัวไทยและส่งเสริมความอบอุ่นผ่านการทำอาหาร
โฆษณาจะเล่าเรื่องราวของแม่ 3 คนที่มีลูกต้องจากบ้านไปทำงานหรือใช้ชีวิตในที่ห่างไกล เช่น ทำงานในเมืองใหญ่หรือเป็นทหารในค่ายห่างไกล แม้จะอยู่ไกลกัน แต่แม่แต่ละคนยังคงแสดงความห่วงใยด้วยการทำอาหารเมนูโปรดของลูก บรรจุลงใน “ปิ่นโต” และส่งไปให้ลูกถึงที่หมายโดยไม่บอกล่วงหน้า กลายเป็นเซอร์ไพรส์ที่ทั้งน่ารักและซาบซึ้ง
ปิ่นโตถูกส่งไปยังลูกผ่านบริการขนส่ง เมื่อลูกได้รับและเปิดออก ความประหลาดใจและรอยยิ้มปรากฏขึ้นทันที บางคนถึงกับน้ำตาคลอเมื่อได้กลิ่นและรสชาติที่คุ้นเคย ซึ่งเป็นเหมือน “รสชาติของบ้าน” (Flavour of Home)
จุดพีคคือลูกแต่ละคนเดาได้ทันทีว่านี่คือฝีมือของแม่ โดยไม่ต้องมีจดหมายหรือคำบอกกล่าวใดๆ เพราะรสชาติและความรู้สึกที่มากับอาหารนั้นบ่งบอกถึงความรักและความผูกพันที่ไม่มีวันลืม
โฆษณาใช้เทคนิคการตัดสลับภาพระหว่างแม่และลูก เพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงและคาดหวังของผู้ชม เพลงประกอบที่ไพเราะและการกำกับภาพที่อบอุ่นช่วยเสริมอารมณ์ให้ผู้ชมรู้สึกทั้งยิ้มและน้ำตาซึมไปพร้อมกัน โดยเฉพาะฉากที่ลูกกินอาหารจากปิ่นโตและนึกถึงแม่ ทำให้เกิดโมเมนต์ที่สะเทือนใจแต่ก็เต็มไปด้วยความสุข
คนอร์ใช้ “ปิ่นโต” เป็นสัญลักษณ์ของการส่งต่อความรักผ่านอาหาร โดยมีคนอร์เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปรุงรสให้อร่อยกลมกล่อม ตอกย้ำภาพลักษณ์ว่าเป็นแบรนด์ที่เข้าใจความต้องการของครอบครัวไทย
แคมเปญนี้ไม่เพียงเน้นขายสินค้า แต่ยังสร้างความรู้สึก nostalgia และความผูกพันทางอารมณ์ โดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่บ้านและคนที่ห่างบ้าน ทำให้คนรู้สึกว่า “คนอร์” คือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและความทรงจำดีๆ
หลังโฆษณาออกอากาศ คนอร์ต่อยอดด้วยการชวนผู้บริโภคแชร์สูตรอาหารของแม่ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Line, Pantip และเว็บไซต์ของคนอร์ เพื่อสร้าง engagement และขยายแคมเปญให้กลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย
โฆษณานี้ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากทั้งผู้ชมและสื่อ ด้วยยอดวิวหลักล้านใน YouTube และถูกพูดถึงในวงกว้าง มันไม่เพียงสะท้อนความรักในครอบครัว แต่ยังทำให้คนอร์ยึดตำแหน่งแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคในฐานะ “ผู้ช่วยความอร่อย” ที่ส่งต่อรสชาติแห่งบ้านได้อย่างแท้จริง